ไทยพีบีเอส สำรวจความคืบหน้างานก่อสร้างบนถนนวิภาวดี-รังสิต ขณะนี้อยู่ในช่วงระยะที่ 2 ตั้งแต่แยกดินแดง ถนนวิภาวดีรังสิต-คลองบึงทะเลสาบ ระยะทางรวมกว่า 24 กิโลเมตร มีกรมทางหลวงเป็นเจ้าของโครงการ วงเงินงบประมาณกว่า 1,600 ล้านบาท ตามกำหนดต้องเสร็จตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
สภาพพื้นที่อยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า ช่วงตั้งแต่หน้าโรงพยาบาลวิภาวดี ไปจนถึงก่อนแยกรัชวิภา เป็นจุดที่แรงงานกำลังทำงาน ในบางช่วงของเส้นทาง แต่ก็มีบางช่วง ไม่ยังไม่พบการทำงาน และ อุปกรณ์หนัก ยังวางในไซต์งาน ทั้งฝั่งวิภาวดีรังสิต ขาเข้าและขาออก
หลายคนคงสงสัยว่าเป็นงานก่อสร้างอะไรกันแน่ เพราะพบเห็นกันข้ามปีแล้วเช่นกัน งานก่อสร้างที่นี่ มีทั้งการเพิ่มศักยภาพระบบระบายน้ำ การทำทางเลนจักรยาน รวมถึงปรับภูมิทัศน์ โดยใช้ชื่อว่า "โครงการก่อสร้างพัฒนาคูน้ำ รวมถึงโครงการปรับภูมิทัศน์ริมข้างทางถนนวิภาวดีรังสิต ระยะที่สอง" มีกรมทางหลวงเป็นเจ้าภาพ
แต่โครงการล่าช้ากว่าสัญญา จากการแก้ไขแบบ และรื้อย้ายเสาไฟฟ้า และสายสื่อสารก่อนหน้านี้ ทำให้โครงการต้องขยับออกไปเป็นสิ้นปีนี้ จึงจะแล้วเสร็จ การก่อสร้างที่ยังต้องทำกันในช่วงฤดูฝนแบบนี้ ยังเป็นข้อกังวลว่าหากฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมถนนวิภาวดีและเส้นทางเชื่อมได้อีก
ประกอบกับภายใต้แผนงาน ที่กรุงเทพมหานคร ประกาศนโยบายชัดเจนว่า ต้องการเร่งแก้ปัญหาและระบบป้องกันน้ำท่วมในกรุงเทพ ดังนั้นการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงเศษดิน ปูนจากไซต์งานก่อสร้าง และการสร้างขวางทางน้ำริมถนนวิภาวดีขณะนี้ จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม.พร้อมผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ กทม.ต้องเป็นฝ่ายไปหารือร่วมกับอธิบดีกรมทางหลวง และฝ่ายเกี่ยวข้องเมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) เพื่อหาแนวทางร่วมกันอย่างเร่งด่วน
โดยพบว่า บริเวณริมถนนวิภาวดี มีจุดเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง ขณะนี้จำนวน 16 จุด ซึ่งฝ่ายเกี่ยวข้องได้ตั้งคณะทำงานช่วยกันดูแลอย่างให้เข้มข้นมากขึ้น
จากการหารือพบจุดคอขวดทั้งเศษหิน ปูนทราย และมีจุดก่อสร้างที่บล็อกน้ำ และต้องมาดูว่าจะแก้ไขตรงจุดนี้อย่างไร ซึ่งพบมีกว่า 10 จุด
เร่งสางจุดเสี่ยง-แก้น้ำท่วม
สำหรับ 16 จุดเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากงานก่อสร้าง มีทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก โดยพื้นที่คลอบคลุมฝั่งขาเข้า ตั้งแต่ช่วงหน้าโรงแรมรามาการ์เด้น มาจนถึงสถานีสูบน้ำดินแดง ส่วนฝั่งขาออก ตั้งแต่หน้ากรมดุริยางค์ทหารบก ไปจนถึงหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ระหว่างนี้ กรมทางหลวง และสำนักระบายน้ำ กทม.จะเร่งหาวิธีป้องกันให้ได้เต็มที่มากที่สุด และขอให้กรมทางหลวง แจ้งผู้รับเหมาให้ดำเนินการเร็วขึ้น รวมถึงเฝ้าระวังหน้างานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง เพื่อป้อง กันเศษหินดินทราย ที่อาจเกิดความเสี่ยงอุดตัน ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการบล็อกพื้นที่ทำเป็นโซนๆ หรือหาวิธีอื่นแทน
นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม.ระบุว่า ยังได้ประสานความร่วมมือสำนักงานเขตต่างๆ ช่วยตรวจสอบกับกรมทางหลวง และเร่งแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงน้ำท่วมเพิ่มเติม จากบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง ที่ยังไม่เสร็จ และมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ ที่อาจส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในเส้นทางอื่น เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ โดยให้เร่งแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ หรือสร้างความเดือดร้อนกับประชาชนผู้ใช้เส้นทางสัญจรด้วย