รถน้อยลง! ขสมก.เคลียร์ปมรอรถเมล์นาน-บขส.ยันไม่หยุดวิ่ง

สังคม
13 มิ.ย. 65
14:01
3,293
Logo Thai PBS
รถน้อยลง! ขสมก.เคลียร์ปมรอรถเมล์นาน-บขส.ยันไม่หยุดวิ่ง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ขสมก.เคลียร์ปมผู้โดยสารร้อง "เพจรถเมล์ไทยแฟนคลับ" รอรถเมล์นานหลัง 20.00 น.เหตุลดเที่ยววิ่ง ทยอยหยุดรถบางเส้น ส่วนบขส.ยันไม่มีนโยบายหยุดเดินรถ ยอมรับน้ำมันแพงจริง แต่เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้นช่วง ก.ค.นี้มีวันหยุดยาว

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "รถเมล์ไทยแฟนคลับ" โพสต์เสียงสะท้อนจากประชนชนผู้ใช้บริการรถเมล์ โดยระบุว่า 20.00 น.รถเมล์หายไป อยากให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยลงมาดู หรือลองมาใช้บริการรถเมล์กลับบ้าน เพื่อจะได้เห็นปัญหาความขาดแคลน ซึ่งบางเส้นทางที่เคยมีรถ ขสมก.วิ่งกะสว่าง ก็หายไป จึงขอเรียกร้องให้เร่งแก้ปัญหา เพราะประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์ ไม่ได้มีรายได้สูง พอที่จะจ่ายค่าแท็กซี่ได้ทุกวัน

วันนี้ (13 มิ.ย.2565) นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย ยอมรับว่า ผู้ประกอบการรถโดยสาร พยายามให้บริการให้ดีที่สุด เท่าที่สามารถดำเนินการได้ โดยระหว่างที่ยังไม่มีทางออกในการแบกรับต้นทุนนี้ อาจต้องส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับผลกระทบในความไม่สะดวกในการใช้บริการ เนื่องจากผู้ประกอบการต้องลดเที่ยววิ่งลง และทยอยหยุดการให้บริการในบางเส้นทาง

ส่วนรถของขสมก.ขณะนี้มี 2,885 คัน วิ่งให้บริการอยู่ราว 95 % ซึ่งถือว่า มีจำนวนรถต่ำกว่าจำนวนขั้นต่ำ ตามใบอนุญาตที่ต้องมี 3,400 คัน จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาเพิ่มและทดแทนรถเก่า

 

ปัจจุบัน ขสมก.มีผู้โดยสารวันละประมาณ 600,000-700,000 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิดประมาณ 15 % และยังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ปัญหาด้วยการจ้างเหมาบริการเดินรถโดยสารไฟฟ้า จำนวน 224 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่า จะทันในปีนี้หรือไม่

ลดเที่ยววิ่ง-หยุดเดินรถบางเส้นทางรับต้นทุนไม่ไหวได้ 

ส่วนนายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ได้รับผลกระทบต่อต้นทุนในการเดินรถ แต่บขส.ไม่มีนโยบายหยุดเดินรถ และปรับขึ้นค่าโดยสาร เพื่อให้เป็นไปตามข้อสั่งการของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่ให้ตรึงราคาค่าโดยสาร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ขณะนี้นโยบายเปิดประเทศ และผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด-19 ทำให้ประชาชนเริ่มกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 30

ส่วนประเด็นที่ผู้ประกอบการรถร่วมฯ ประกาศจะหยุดวิ่ง หลังแบกรับต้นทุนน้ำมันไม่ไหว จากการตรวจสอบจำนวนเที่ยววิ่ง พบว่ายังคงวิ่งให้บริการปกติ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในเดือนก.ค.นี้ มีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน

รถโดยสารยื่นขอปรับค่าโดยสารอีกครั้ง

ด้านนายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระเพิ่มขึ้นเที่ยวละประมาณ 1,400 บาท โดยเฉลี่ยหากวิ่งวันละ 50 เที่ยว ต้องแบกภาระเพิ่มขึ้นประมาณ 70,000 บาทต่อวัน

ที่ผ่านมาผู้ประกอบการยื่นหนังสือขอให้ภาครัฐพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ จึงมีความจำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องประคองธุรกิจด้วยการลดเที่ยววิ่ง หรือหยุดการให้บริการบางเส้นทาง และอาจต้องปิดกิจการถาวร

จะยื่นหนังสือกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับการขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร จากที่คิดอัตราเริ่มต้นที่ 40 กิโลเมตรแรก ในอัตรา 53 สตางค์ เป็น 58 สตางค์ต่อกิโลเมตร เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง