วันนี้ (18 มิ.ย.2565) ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งของจีน เปิดเผยหลังทำการทดลองในห้องทดลองว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว และติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิม ที่พบการระบาดก่อนหน้านี้ในแอฟริกาใต้ อาจติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่มีการระบาดในปัจจุบันได้ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์ย่อย BA.5 และ BA.4 ที่ระบาดในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวมีการกลายพันธุ์ที่ทำให้สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้
นอกจากนี้ ยังเปิดเผยด้วยว่า เบ็บเทโลวิแมบ ซึ่งเป็นยาต้านโควิด-19 ของบริษัทอีไล ลิลลี ของสหรัฐฯ และ อีวูแชล แอนติบอดีสำเร็จรูปของแอสตราเซเนกา ยังคงมีประสิทธิภาพในการรับมือกับสายพันธุ์ดังกล่าวได้ แต่วัคซีนที่ไฟเซอร์และโมเดอร์นาที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อรับมือกับสายพันธุ์โอมิครอนดั้งเดิม หรือ BA.1 อาจไม่สามารถป้องกันสายพันธุ์ใหม่ๆ ของโอมิครอนได้อย่างครอบคลุม
ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยผลวิจัยที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งระบุว่า ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 และติดเชื้อโอมิครอนไม่น่าจะสร้างภูมิต้านทาน เพื่อปกป้องจากเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อื่นๆ ได้
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ถึงแม้วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่ก็สามารถป้องกันอาการรุนแรงได้ และยังคงแนะนำให้ทุกคนรับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่จำเป็น เพื่อรักษาภูมิคุ้มกันให้สูงอยู่เสมอ
ที่มา : Reuters