วันนี้ (22 มิ.ย.2565) บริษัทไบเออร์ เอจี ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลและคำตัดสินดังกล่าว ทำลายความสามารถของบริษัทต่างๆ ที่ขึ้นอยู่กับหน่วยงานกำกับดูแลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของภาครัฐ
บริษัทแก้ต่างต่อข้อกล่าวหาที่ชี้ว่า ไม่มีคำเตือนถึงความเสี่ยงในการก่อมะเร็งอย่างเพียงพอว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลของภาครัฐได้อนุมัติการใช้งานผลิตภัณฑ์ไปแล้ว ดังนั้นบริษัทจึงไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ หลังจากนั้นอีก
กรณีที่ศาลสูงสุดไม่รับอุทธรณ์ของไบเออร์ ทำให้คดีความของเอ็ดวิน ฮาร์ดแมน ชาวแคลิฟอร์เนีย ที่ยื่นฟ้องเพื่อเรียกค่าเสียหายมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 825 ล้านบาท ยังคงมีผลตามเดิม หลังจากที่ฮาร์ดแมน ระบุว่า สาเหตุที่เป็นมะเร็งเกิดจากการใช้ราวด์อัพมานานหลายปี
นอกจากนี้ ยังถือเป็นการปูทางให้โจทก์อีกหลายพันคนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในลักษณะคล้ายๆ กันและอาจทำให้บริษัทสูญเสียเงินอีกหลายพันล้านดอลลาร์อีกด้วย
ในปี 2020 บริษัทใช้เงินประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดการกับคดีความหลายหมื่นคดี ขณะที่ในเดือน มี.ค. มีการเปิดเผยข้อมูลต่อนักลงทุน ว่า บริษัทได้สะสางคดีความไปแล้วประมาณ 107,000 คดี จากคดีทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 138,000 คดี