"มะเร็งต่อมน้ำเหลือง" พบบ่อยในคนไทย แนะหมั่นสังเกตตนเอง

สังคม
2 ก.ค. 65
10:38
2,440
Logo Thai PBS
"มะเร็งต่อมน้ำเหลือง" พบบ่อยในคนไทย แนะหมั่นสังเกตตนเอง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กรมการแพทย์ เผย "มะเร็งต่อมน้ำเหลือง" พบบ่อยในคนไทย แนะหมั่นสังเกตตนเองหากคลำพบต่อมน้ำเหลืองโตหรือมีอาการผิดปกติ รีบไปพบแพทย์ ชี้เข้าถึงการรักษาเร็วยิ่งมีโอกาสรักษาได้มากขึ้น

วันนี้ (2 ก.ค.2565) นพ.สมศักดิ์ อรรมศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็น 1 ใน 10 ของมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย พบมากเป็นอันดับ 5 ในเพศชาย และอันดับ 9 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 4,300 คน และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,300 คน หรือคิดเป็น 4 คนต่อวัน มะเร็งชนิดนี้พบได้ในทุกกลุ่มวัยและจะมีอุบัติการณ์สูงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองจัดเป็นโรคมะเร็งของระบบโลหิตวิทยา หรือระบบโรคเลือด มักเกิดกับเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลืองที่กระจายอยู่ทั่วร่างกาย เช่น บริเวณลำคอ รักแร้ ขาหนีบ ข้อพับแขน ข้อพับขา ในช่องอก และในช่องท้อง เป็นต้น

สาเหตุการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองยังไม่ทราบแน่ชัด แต่จากข้อมูลพบว่ามีความเชื่อมโยงกับการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ การสัมผัสสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง เช่น สารเคมีปราบศัตรูพืช รวมไปถึงการมีภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง เช่น โรคเอดส์ การปลูกถ่ายอวัยวะ โรคไขข้ออักเสบ เป็นต้น

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง รู้เร็ว รักษาหาย

นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า อาการในระยะแรกมักพบต่อมน้ำเหลืองโตขึ้น ซึ่งจะคลำพบได้ง่ายในบริเวณที่อยู่ตื้น คลำได้ และอาจไม่รู้สึกเจ็บ เช่น บริเวณข้างลำคอ รักแร้ เต้านม หรือขาหนีบ นอกจากนี้อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ต่อมทอนซิลโต เหงื่อออกกลางคืน ท้องอืดแน่น ตับม้ามโตโดยไม่ทราบสาเหตุ

สำหรับในด้านวิธีรักษานั้นจำเป็นต้องพิจารณาชนิดของมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะโรค อายุ และภาวะสุขภาพคนผู้ป่วยโดยรวม การรักษาอาจประกอบด้วยการให้ยาเคมีบำบัด หรือการให้รังสีรักษา ซึ่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาจะให้คำแนะนำเพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับโรคและสภาวะคนไข้มากที่สุด

ทั้งนี้ โดยทั่วไปผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจะมีผลการรักษาดี มีโอกาสหายขาดจากโรค และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ

ขณะที่ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระยะเริ่มแรก ดังนั้นการหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากพบว่ามีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง