แนะทางรอดเคสจับตัวประกัน "ไทยมุง" ต้องรู้ทางหนีทีไล่

อาชญากรรม
16 ก.ค. 65
07:57
910
Logo Thai PBS
แนะทางรอดเคสจับตัวประกัน "ไทยมุง" ต้องรู้ทางหนีทีไล่
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เหตุการณ์จับตัวประกันขู่ใช้ระเบิดที่ "ขอนแก่น" ล่าสุดผู้ก่อเหตุอาการสาหัส เนื่องจากถูกกระสุนยิง ส่วนที่มาของระเบิดที่ยังทำงาน ตำรวจยังเร่งแกะรอย ขณะที่ยังมีคำแนะนำสำหรับไทยมุง ที่ต้องรู้หากต้องเผชิญกับเหตุการณ์จับตัวประกัน

วันนี้ (16 ก.ค.2565) พ.ต.อ. ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่ากรณีชายเก็บของเก่าถือระเบิดและจับตัวประกันในพื้นที่จ.ขอนแก่น ซึ่งเหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการสยบผู้ก่อเหตุได้ ล่าสุดอาการของผู้ก่อเหตุว่า ถูกกระสุนยิงเข้าที่ลำคอทะลุท้ายทอย อาการสาหัส ยังใช้เครื่องช่วยหายใจ

เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา 3 ข้อหา คือ หน่วงเหนี่ยวกักขัง ,ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ,และความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุระเบิด ส่วนการตรวจสอบลายนิ้วมือ พบว่า ตรงกับประวัติของ นายสุรพล คมสินธุ์ อายุ 51 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในจ.นครนายก เคยต้องโทษในคดียาเสพติด

ข้อมูลจากเจ้าของร้านขายของชำในพื้นที่เกิดเหตุ พบว่า เห็นผู้ก่อเหตุในพื้นที่ประมาณ 2 ปี หากไม่มีเงินจะขอติดไว้แล้วจ่ายทีหลัง ซื้อบุหรี่และน้ำ แต่ไม่ซื้อสุราเหมือนคนไร้บ้านทั่วไป

 

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบภูมิลำเนา ของผู้ก่อเหตุที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก ทราบว่า นายสุรพล อยู่ในหมู่บ้านและขายบ้านทั้งที่ดินไปเมื่อประมาณ 10-20 ปีก่อน มีลักษณะคล้ายผู้มีอาการทางจิตมาก่อนหน้านี้แล้ว เคยใช้มีดผ่าท้อง และใช้เข็มเย็บท้องตัวเอง ที่วัดเขาไม้ไผ่ ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านนามาแล้ว

ไม่เฉพาะมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ ประเด็นที่สังคมพูดถึงมาคือกลุ่มคนที่ติดตามสถานการณ์อยู่ใกล้ โดย ตำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกัน บอกว่า กรณีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ถ้าส่งเสียงเชียร์ หรือร้องด้วยความลุ้น ตื่นเต้นไปกับเหตุการณ์ อาจเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ส่งผลเสียต่อเจ้าหน้าที่และกระตุ้นอารมณ์ผู้ก่อเหตุ

แนะทางรอดกรณีจับตัวประกัน "ไทยมุง" ต้องรู้ 

ขณะที่ปฏิบัติการครั้งนี้พบว่ามีประชาชนหรือกลุ่มไทยมุง มาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีการส่งเสียงในระหว่างที่ตัวประกันวิ่งหนีออกมาได้ ซึ่งวิธีการนี้อาจส่งผลต่อการทำงาน และไม่ปลอดภัยได้ข้อควรปฏิบัติสำหรับประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ 

  • กรณีอยู่ในจุดเกิดเหตุ อยู่ในวงล้อมเจ้าหน้าที่และผู้ก่อเหตุ เช่น บ้านหรือร้านค้าอยู่ตรงนั้น ควรหลบเข้าอยู่ในที่พักไม่ออกมา
  • ประชาชนควรอยู่ห่างจุดเกิดเหตุให้มากที่สุด
  • ไม่ส่งเสียงรบกวนหรือต่อว่า ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ก่อเหตุ เพราะผู้ก่อเหตุรับรู้ถึงสิ่งเร้า และแรงกดดันรอบตัว
  • แต่กรณีตกเป็นตัวประกันประการแรกควรพยายามตั้งสติ แน่นอนหลายคนต้องบอกว่าใครจะไปทำได้ เพราะทำได้ยาก แต่ต้องพยายามทำให้ได้
  • คุยกับผู้ก่อเหตุเพื่อให้เกิดความเห็นอกเห็นใจ
  • อย่าพยายามหนีเอง แต่ให้รอดูสัญญาณจากเจ้าหน้าที่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
 
 
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง