วันนี้ (21 ก.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังกว่า 20 จุด ล่าสุดเวลา 16.00 น. ยังมีน้ำท่วมขังในซอย เช่น ซอยรามคำแหง 12 ,14 , 26 , 53 หน้าวัดศรีเอี่ยม ถนนศรีนครินทร์ หน้าเซ็นทรัลบางนา และปรีดีพนมยงค์ 26 แยก 5
5 จุด ปริมาณน้ำฝนสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมง
ข้อมูลจากสำนักระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร พบว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (07.00 น. ของวันที่ 20 ก.ค. - 07.00 น. ของวันที่ 21 ก.ค.) มีปริมาณน้ำฝนสูงสุดใน 5 พื้นที่ แก่ จุดวัดคลองบึงใหญ่-วัดทองสัมกฤทธิ์ เขตมีนบุรี ปริมาณ 165 มม. จุดวัดสถานีคลองแสนแสบ-คลองตัน เขตวัฒนา ปริมาณน้ำฝน 164.5 มม. จุดวัดสำนักงานเขตสะพานสูง ปริมาณน้ำฝน 163 มม. จุดวัดสำนักงานเขตวังทองหลาง ปริมาณฝน 155.5 มม. จุดวัดสถานีคลองสามเสน-แสนแสบ เขตห้วยขวาง ปริมาณฝน 150.5 มม.
มีรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร ต้องเร่งดำเนินการระบายน้ำ ลดน้ำท่วมขัง ขณะที่อุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องจักรเคลื่อนย้ายขยะชิ้นใหญ่ ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ ผ้านวม โซฟา ที่นอน รวมทั้งขยะชิ้นเล็ก ๆ ทั้งกล่องโฟม ขวดพลาสติก ถุงพลาสติก ติดค้างอยู่บริเวณตะแกรงดักขยะบริเวณปากอุโมงค์ฯ ส่วนขยะบางชิ้นที่ไม่สามารถใช้เครื่องจักรได้ เจ้าหน้าที่จะต้องลงไปเก็บเอง เพื่อเปิดทางระบายน้ำ
กทม.เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม-ช่วยประชาชน
ขณะที่นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กำชับแนวทางปฏิบัติและมอบนโยบายแก่หน่วยงานในสังกัด เช่น สำนักการระบายน้ำ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ สำนักการโยธา สำนักงานเขต 50 เขต เตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนและแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมขังกรณีฝนตกหนักต่อเนื่องจนเกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่
นายวิศณุ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องมากกว่าที่คาดหมายไว้เมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) ซึ่งมีฝนตกมากกว่าที่เคยเกิดขึ้น และในช่วง 2-3 วัน จะยังคงมีฝนตกหนักอยู่ ซึ่งฝนน่าจะไม่น้อยกว่าเมื่อวานนี้ ทุกหน่วยงานจึงต้องเตรียมความพร้อมเพิ่มขึ้นในทุกด้านตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นกำลังคน วัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อคอยแก้ไขสถานการณ์ รวมถึงเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุและช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานค กล่าวว่า สิ่งที่ทุกคนได้ร่วมกันทำจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ถึงแม้จะยากลำบากแต่ก็ต้องผ่านไปให้ได้ ไม่ใช่แค่สำนักการระบายน้ำ ทั้งสำนักงานเขต 50 เขต และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักเทศกิจ สำนักการโยธา ก็ต้องเตรียมความพร้อมด้วย ถือเป็นอีกบททดสอบว่ากรุงเทพมหานครมีศักยภาพในการสร้างความอุ่นใจให้ประชาชนได้เพียงใด