ผู้นำสหรัฐฯ "โจ ไบเดน" ติดโควิด-กักตัวในทำเนียบขาว

ต่างประเทศ
22 ก.ค. 65
07:56
268
Logo Thai PBS
ผู้นำสหรัฐฯ "โจ ไบเดน" ติดโควิด-กักตัวในทำเนียบขาว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทำเนียบขาวระบุ "โจ ไบเดน" ผู้นำสหรัฐฯ ติดเชื้อโควิด-19 และมีอาการเล็กน้อย โดยจะเดินหน้าทำงานระหว่างกักตัวที่ทำเนียบขาว

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีอาการจากการติดเชื้อโควิด-19 เล็กน้อย และจะเดินหน้าทำหน้าที่ของผู้นำประเทศต่อไประหว่างกักตัวที่ทำเนียบขาว จนกว่าจะมีผลตรวจเป็นลบ ซึ่งรวมถึงการเข้าร่วมประชุมผ่านระบบประชุมทางไกล หรือโทรศัพท์ โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบของทำเนียบขาว

ขณะที่ผู้ประสานงานโควิด-19 ประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ผู้นำสหรัฐฯ มีความเสี่ยงน้อยมากที่จะมีอาการรุนแรง เนื่องจากได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วและอยู่ระหว่างรับยาต้านไวรัสแพกซ์โลวิด ซึ่งไบเดนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ครบ 2 โดส ไม่นานก่อนเข้ารับตำแหน่ง ก่อนที่จะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ย.2564 และครั้งที่ 2 เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

แพทย์ประจำตัว เปิดเผยถึงอาการของผู้นำสหรัฐฯ ว่า มีน้ำมูก เหนื่อยล้า และไอแห้งเป็นครั้งคราว ซึ่งอาการดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่เย็นวันที่ 21 ก.ค. ขณะที่ไบเดนระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์แสดงความขอบคุณที่ทุกคนเป็นห่วง พร้อมทั้งเปิดเผยว่าตนเองสบายดีและกำลังทำงานหลายอย่าง

สื่อบางสำนักตั้งข้อสังเกตว่า ทำเนียบขาวพยายามแสดงให้เห็นว่า ผู้นำสหรัฐฯ กำลังทำงานอย่างหนักแม้ว่าจะติดเชื้อโควิด-19 โดยมีการเผยแพร่ทั้งคลิปวิดีโอและภาพการทำงานของเขา ซึ่งก่อนหน้านี้มีความกังวลถึงเรื่องสุขภาพ เนื่องจากไบเดนจะมีอายุครบ 80 ปีในปีนี้ ถือเป็นผู้นำสหรัฐฯ ที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ด้าน จิลล์ ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ระบุว่า ได้พูดคุยกับสามีแล้วและเขายังสบายดี พร้อมทั้งเปิดเผยว่าผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของตนเป็นลบ และจะเดินหน้าทำงานตามกำหนดการเดิม แต่จะต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (CDC)

ส่วน คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ โดยแฮร์ริสเคยติดเชื้อเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหากผู้นำสหรัฐฯ ป่วยจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เธอในฐานะรองประธานาธิบดีจะต้องขึ้นมารักษาการแทน

 

อ่านข่าวอื่นๆ

เฝ้าระวัง "ไวรัสมาร์เบิร์ก" พบผู้ติดเชื้อในแอฟริกาตะวันตก

สภาศรีลังกาลงมติเลือก "รานิล วิกรมสิงเห" เป็นผู้นำคนใหม่

"รัสเซีย" ชี้ขยายเป้าหมายทำสงครามในยูเครนเพิ่มจากดอนบาส

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง