บทวิเคราะห์ : จะเกิดอะไรหากไม่มี “บิ๊กป้อม”

การเมือง
27 ก.ค. 65
10:57
182
Logo Thai PBS
บทวิเคราะห์ : จะเกิดอะไรหากไม่มี “บิ๊กป้อม”
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องบารมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่เพียงเป็น 1 ในรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเจ้าตัวตอบญัตติเพียงแค่นาทีเดียว แต่ได้เสียงโหวตไว้วางใจสูงที่สุด 268 เสียง และเสียงไม่ไว้วางใจน้อยที่สุด 193 เสียง ต่ำกว่า 200 เสียง เพียงคนเดียวเท่านั้น

ล่าสุด คนทั่วไปได้เห็นพระเอกหนังยอดนิยมในอดีต ที่ผันตัวเองมาเล่นการเมือง นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก 1 ใน 6 ส.ส.พลังประชารัฐ จ.สมุทรปราการ ที่กล้าโหวตสวนมติพรรค ไม่ลงคะแนนเสียงให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน คุกเข่าและกราบเท้า พล.อ.ประวิตร เพื่อเป็นการขอโทษ ในการตัดสินใจของเขาและเพื่อน ส.ส.อีก 5 คน

 

เจอแบบนี้เข้าไป ไม่มีใครรู้ว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพฤติกรรม 6 ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรค จะออกมาอย่างไร เพราะอาจไม่เข้มข้นอะไรมากนัก เพราะเป็นช่วงปลาย ๆรัฐบาล พรรคต้องพึ่งพา ส.ส.ทั้งในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ในชุดนี้และในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งส.ส.สมุทรปราการจะเพิ่มเป็น 8 คน

นายกรุงศรีวิไลนั้น ถือเป็นส.ส.ที่ใกล้ชิดกับพล.อ.ประวิตร ขณะที่กลุ่มบ้านใหญ่ปากน้ำ นำโดยตระกูลอัศวเหม ก็ถือว่าเป็นสายตรง “บิ๊กป้อม” อยู่แล้ว มิหนำซ้ำ ในการปราศรัยกับชาวจังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวด้วยว่า ส.ส.สมุทรปราการจะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี หากมีการปรับครม.ครั้งหน้า

นำไปสู่ประเด็นถูกกล่าวหาว่า การกระทำของส.ส.สมุทรปราการ ครั้งนี้ มีแกนนำระดับ “บิ๊ก” ในพรรค รู้เห็นและอยู่เบื้องหลังหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ภาพที่ได้เห็นควบคู่กัน คือสภาพร่างกายของ “บิ๊กป้อม” เมื่อมีการเคลื่อนไหว เพราะต้องอาศัยบอดี้การ์ดและคนใกล้ชิดคอยประคองทั้งขึ้นลงรถ และระหว่างเดินขึ้นบันไดเตี้ยๆ เข้างาน สะท้อนให้เห็นความเสื่อมถอยตามวัย

พล.อ.ประวิตรเอง ได้เคยตอบคำถามสื่อหลายครั้ง เมื่อถูกถามเรื่องจะเป็นนายกรัฐมนตรีเองหรือไม่ ในหลายสถานการณ์ว่า แค่เดินยังจะไม่ไหวอยู่แล้ว ? เท่ากับเจ้าตัวรู้สภาพร่างกายตนเองดี

 

แต่ภาพและเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม” ถือเป็นบุคคลสำคัญในการช่วยประคับประคองรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ก้าวเดินฝ่าอุปสรรคนานาประการ ตั้งแต่เรื่องการชุมนุมประท้วงของกลุ่มตรงข้ามและกลุ่มคนรุ่นใหม่ เรื่องแก้ปัญหาองค์ประชุมสภาไม่ครบ เรื่องข้อเรียกร้องของพรรคเล็ก และอีกหลายเรื่อง

นอกจากนี้ ยังเป็นที่พึ่งของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะการลงพื้นที่ การช่วยปราศรัยเลือกตั้งซ่อม จะถูกล้อมหน้าล้อมหลังด้วย ส.ส.ทั้งพรรคพลังประชารัฐและต่างพรรค กระทั่งบางครั้ง เกินหน้าเกินตาคณะของนายกฯ ที่ลงพื้นที่ก็มี

บทบาทและความสำคัญนี้ ถึงขั้นมีการตั้งคำถามสำหรับคอการเมืองพันธุ์แท้ว่า ถ้าไม่มีพล.อ.ประวิตร อาจมาจากสาเหตุสุขภาพ หรือต้องการวางมือทางการเมืองแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น กับทั้งในพรรคพลังประชารัฐ และการประกาศเดินหน้าต่อของพล.อ.ประยุทธ์ บนเส้นทางการเมือง

 

ในพลังประชารัฐ ปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคเกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มและมุ้งการเมืองอย่างน้อย 13 กลุ่ม มีภารกิจสำคัญคือสานฝัน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อ และสามารถทำได้สำเร็จ

แม้จะมีเสียงวิพากษ์โจมตีจากฝ่ายตรงข้าม และฝ่ายไม่เห็นด้วยเรื่องใช้กติกาตามรัฐธรรมนูญและฝ่ายกองทัพเอื้อประโยชน์ให้ แต่เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ตำแหน่งทางการเมืองมีจำกัด การแย่งชิงอำนาจก็เกิดขึ้น ทั้งในพรรค พปชร.และในรัฐบาล ถึงขั้นบางครั้งอยู่ในสภาพที่เรียกว่า “แพแตก” แต่คนที่ช่วยกอบกู้ฝ่าวิกฤติดังกล่าวได้ คือ พล.อ.ประวิตร

สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน เป็นการรอมชอมชั่วคราว ด้วยความยำเกรง พล.อ.ประวิตร ฉะนั้น หากพรรค พปชร.ไม่มี พล.อ.ประวิตร จะเกิดอะไรขึ้น นักวิชาการหลายคน ฟันธงไว้ก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีบิ๊กป้อม ไม่มีพรรคพลังประชารัฐ

ขณะที่เส้นทางเดินต่อจากนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ หากไม่มี พล.อ.ประวิตร แน่นอนว่า ย่อมต้องยุ่งยากยุ่งเหยิงแน่นอน ตั้งแต่ใครจะคอยทำหน้าที่ระวังหลัง ทำหน้าที่ปราม ช่วยประคองและเป็นผู้จัดการรัฐบาลให้

 

เพราะทอดตาดูจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครจะมีบารมีเท่า “บิ๊กป้อม” แม้แต่ตัวนายกฯ เอง หากลงไปคุมหรือเปิดตัวเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเอง ก็ต้องเจอกับสภาพ “ฤาษีเลี้ยงลิง” ประกอบกับเป็นคนอารมณ์ร้อนของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีใครรู้ว่าจะทนทานได้แค่ไหน

พล.อ.ประยุทธ์ ดูจะที่ทราบดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีข่าวคราวเรื่องแผนสองหรือแผนสำรองออกมาเป็นระยะ ๆ ล่าสุด คือการรื้อฟื้นพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่แรมโบ้อีสาน นายเสกสกล อัตถาวงษ์ ได้เริ่มต้นไว้

โดยมีชื่อของ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตคนจากประชาธิปัตย์ จะเข้ามาทำหน้าที่ขับคลื่อน เพื่อรองรับบรรดาส.ส.ที่พร้อมสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

แต่จะสำเร็จหรือไม่ หากไม่มีบิ๊กป้อม นี่คือคำถามที่น่าคิดหาคำตอบ และเป็นหนึ่งในเรื่องที่ท้าทายพล.อ.ประยุทธ์ อย่างยิ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง