วันนี้ (1 ส.ค.2565) นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการด่วนให้ลงพื้นที่ตรวจสอบและหาสาเหตุ โดยเหตุเกิดในวันที่ 31 ก.ค.2565 เวลา 20.00 น. บริเวณโครงการปรับปรุงสะพานกลับรถบริเวณใกล้กับโรงพยาบาลวิภาราม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ขณะที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่คุมงานและคนงาน อยู่ระหว่างการเตรียมความเรียบร้อยพื้นที่ เพื่อจะเทพื้นสะพานใหม่ หลังจากทุบพื้นสะพานช่วงที่ชำรุดเสียหายออกแล้ว ต่อมาคานสะพานลอยตัวริมสุดได้ร่วงหล่นลงมาทับรถยนต์ที่สัญจรบนถนนพระราม 2 ทำให้มีรถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวน 3 คัน มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 2 คน (ประชาชนในรถเกิดเหตุ เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน) ซึ่งได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ทั้งนี้ ได้ปิดช่องจราจรช่องทางหลัก (ขาเข้า) โดยให้วิ่งทางคู่ขนานแทน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ทาง
สำหรับสะพานกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 35 หรือถนนพระราม 2 ที่ กม.34 (สะพานกลับรถบริเวณใกล้ รพ.วิภาราม ) ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2536 ใช้งานมาเป็นระยะเวลานานเกือบ 30 ปี จึงมีความจำเป็นต้องบูรณะซ่อมแซมสะพาน โดยเริ่มเข้าซ่อมแซมสะพานตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา กำหนดแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้
การซ่อมแซมดังกล่าว เริ่มด้วยการทุบรื้อพื้นสะพานและเปลี่ยนพื้นใหม่ จำนวน 2 ช่วง งานสกัดโครงสร้างสะพานที่เสียหาย ส่วนที่อยู่บนคานคอนกรีตอัดแรง รวมทั้งบริเวณพื้นที่ส่วนของทางขึ้นทางลง ส่วนการทำงานซ่อมแซมสะพาน ดำเนินการในช่วงเวลากลางวันถึงช่วงค่ำ โดยไม่ปิดกั้นเส้นทางจราจร เพราะทำบนสะพาน แต่จะระมัดระวัง ป้องกัน เศษ อิฐ ปูน หรือวัสดุต่าง ๆ ไม่ให้ตกหล่นลงสู่ทางถนน
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถาม ว่า สะพานแห่งนี้เคยเกิดเหตุการณ์รถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำและเกิดไฟลุกไหม้ เหตุใดจึงไม่รื้อทำลายแทนการซ่อมปรับปรุง นายสราวุธ บอกว่า สะพานนี้มีมาตั้งแต่ปี 2536 เป็นสะพานใช้งานมานานและมียานพาหนะใช้ทางในปริมาณมาก นับหมื่นคันต่อวัน ทั้งรถขนาดเล็กและรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทำให้มีการตรวจสอบ สภาพและปรับปรุงเป็นระยะเรื่อยมา ส่วนเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อหลายปีก่อนนั้น มีการตรวจสอบโครงสร้างแล้ว พบว่า สามารถซ่อมบำรุงได้ เพราะไม่กระทบโครงสร้างสะพาน
อธิบดีกรมทางหลวง ยืนยันว่า ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้เน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับผลกระทบ ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่กรมทางหลวงจะต้องทบทวนและพิจารณามาตรการเสริมความปลอดภัยด้านต่าง ๆ เพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจก่อนจะเริ่มงานโครงการต่อไป พร้อมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
ปิดจราจรช่องทางหลักขาเข้า
ในวันนี้ (1 ส.ค. 65) จะตั้งกรรมการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง วิเคราะห์สาเหตุที่เกิดขึ้นโดยผู้วิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ให้รายงานผลภายใน 14 วัน และให้ระงับการซ่อมแซมโครงสร้างสะพานกลับรถนี้ รวมทั้งปิดการจราจรช่องทางหลักขาเข้าไว้ก่อน จนกว่าจะมีความมั่นใจในความปลอดภัย และได้สั่งการให้ตรวจสอบ ขั้นตอนการทำงาน วัสดุชิ้นส่วนงานก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ให้มีความพร้อม หากพบว่าส่วนใดส่วนหนึ่งไม่พร้อม ไม่ปลอดภัย ให้หยุดงานก่อสร้างทันที โดยเน้นย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด ซึ่งมีกว่า 200 โครงการ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางขึ้นอีก
ขณะเดียวที่นายสุชาติ รักท้วม ญาติผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สะท้อนว่า สะพานเก่ามากแล้ว และเคยเกิดไฟไหม้เมื่อครั้งรถบรรทุกน้ำมันพลิกคว่ำ ควรรื้อสร้างใหม่ ไม่ใช่ซ่อมบำรุง โดยประชาชนต้องแบกรับความเสี่ยง ส่วนการซ่อมทางจนแผ่นปูนล่วงลงมา มองว่า เจ้าหน้าที่ไม่รอบคอบมากพอ ยืนยันจะฟ้องร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง คานสะพานลอยกลับรถ ถ.พระราม 2 ถล่มทับรถ มีรายงานตาย 1 เจ็บ 3 คน