วันนี้ (8 ส.ค.2565) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า พรรคการเมืองฝ่ายค้านมีมติว่า วันที่ 17 ส.ค.นี้ จะยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปมวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ คาดว่า สภาผู้แทนราษฎรจะตรวจสอบความถูกต้องของคำร้อง และส่งศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนวันที่ 24 ส.ค.นี้
ในคำร้องยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด โดยไม่ได้กังวลต่อสถานการณ์ทางการเมือง
หากศาลมีคำวินิจฉัยออกมาในทางใด หากศาลชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งมา 8 ปี ก็มีกระบวนการรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ หรือเกิดกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจยุบสภา ยอมรับว่า มีความกังวลเรื่องกฎหมายลูก ว่าด้วยการเลือกตั้ง เพื่อรองรับจัดการเลือกตั้งปีหน้า ซึ่งจะต้องติดตามการประชุมรัฐสภาในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ว่าการเห็นชอบร่างกฎหมายจะแล้วเสร็จ ตามกรอบเวลา 180 วันหรือไม่
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า โดยเฉพาะประชาชนกำลังจับตามองการทำงานของรัฐสภา เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์การประชุมล่ม ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และพรรคก้าวไกลก็หวังว่า ในการประชุมร่วมในวันพุธนี้ เพื่อพิจารณากฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งจะผ่านไปได้ด้วยดี
นอกจากนี้ยังมองทางออกปัญหากฎหมายลูกเอาไว้ 3 แนวทาง คือ 1.เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาเห็นชอบร่างกฎหมาย และจัดทำแล้วเสร็จภายใน 180 วัน ก่อนจะส่งให้ กกต. พิจารณาทำความเห็นร่างกฎหมาย และเป็นไปได้ที่ กกต. จะส่งทำความเห็นเรื่องวิธีคิดคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อที่หารด้วยจำนวน 100 ตามร่างแรกของ กกต.
และ 2.เสียงของรัฐสภาส่วนใหญ่ ไม่เห็นชอบตามร่างกฎหมาย ซึ่งแนวทางนี้ไม่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ทางการเมือง เนื่องจากกรอบเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐสภา ไม่สามารถจัดทำกฎหมายลูกให้แล้วเสร็จ เพราะจะต้องเริ่มกับไปนับหนึ่งใหม่
สำหรับแนวทางที่ 3 อาจจะเกิดปรากฏการณ์รัฐสภาองค์ประชุมล่ม และไม่สามารถออกกฎหมายลูกได้ทัน 180 วัน จะทำให้ต้องกลับไปใช้ร่างที่รัฐสภารับหลักการในวาระแรก ส่งไปให้ กกต.
ทั้งนี้ไม่ว่าจะออกมาในแนวทางที่ 1 หรือแนวทางที่ 3 สุดท้ายเรื่องอาจจะต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีผู้เห็นต่างยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ทั้งปมการหาร 500 หาร 100 ที่ยังมีความเห็นต่าง