วันนี้ (11 ส.ค.2565) เฟชบุ๊กสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์แจ้งข่าวเศร้า "เจ้าขุน" ยีราฟในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน ได้ตายลงเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา
ข้อมูลระบุว่า จากสภาพอากาศที่ฝนติดต่อกันหลายวัน เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับรายงานจากผู้ดูแลขุนว่ามีอาการยืนซึม ไม่ยอมกินอาหารเลย และลงนอนมากกว่าปกติ จากการตรวจสอบไม่พบการถ่ายเหลว ซึ่งเป็นโรคประจำตัวของขุน จึงได้ประสานสัตวแพทย์เพื่อรักษา
ทางสัตวแพทย์ ได้ประสานไปต่อยังสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษา และมีกำหนดเข้ามารักษาภายในเช้าวันที่ 10 ส.ค.และในช่วงเย็นที่ เริ่มพบว่าเจ้าขุน จะมีไข้ และนอนหูตกอยู่ จึงได้ตะโกนเรียกชื่อขุนไป เพื่อดูการตอบสนอง
แต่เจ้าขุนไม่ได้ตอบสนองแต่อย่างไร แต่ยังสามารถลุกเดินได้บ้าง ซึ่งถ้าอาการแย่มาก ยีราฟจะไม่ลุกขึ้นเลย กระทั่งเวลา 05.00 น.ของวันที่ 10 ส.ค.เจ้าขุนได้จากเราไป เหลือแต่คำถามในหัวใจ
เราพลาดอะไรไป เราทำดีพอหรือยัง หรือติดโควิดจากเรา ทำไมดูแลไม่ได้ ยีราฟแค่ตัวเดียวทำไม ทิ้งแต่ความรู้สึกผิด ท้อแท้ และเสียใจ ทั้งของแอดมิน และของเจ้าหน้าที่ทั้งสถานีฯ
นอกจากนี้ ยังขอโทษที่ไม่สามารถรักษาชีวิตของเจ้าขุนได้นานมากไปกว่านี้ พร้อมระบุว่าตลอดชีวิตของขุนได้สร้างกุศล มอบรอยยิ้มเสียงหัวเราะ ร้องไห้ สร้างความสุขให้แก่เด็กมาโดยตลอด
ภาพ:สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี
ภาพ:สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี
รอผลชันสูตรสาเหตุ "เจ้าขุน" ลูกยีราฟตาย
นายภาคภูมิ อร่ามศิริรุจิเวทย์ หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า เจ้าขุน เป็นลูกยีราฟอายุ 4 ปี เป็นสัตว์ป่ากรณีแก้ไขปัญหาจากศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากความหนาแน่นของสัตว์ป่าในพื้นที่ และเกิดการทะเลาะกันในกลุ่มยีราฟที่มีหลายตัว จึงย้ายออกมาดูแลที่สถานีฯเขาสน ช่วงเม.ย.ที่ผ่านมา โดยย้ายมาพร้อมกับลูกยีราฟอีก 1 ตัวชื่อ เจ้าหมื่น
หลังจากนำมาดูแลพบว่าเจ้าขุน มีปัญหาเรื่องฟันโยก ทำให้มีน้ำลายไหลตลอดตลอดเวลา การเคี้ยวอาหารไม่ดี แต่ตั้งแต่มาอยู่จนถึงวันที่ 8 ไม่มีอาการบ่งชี้ใด กระทั่งช่วง 2 วันในพื้นที่มีฝนตกหนักด้วย
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบมีเศษอาหารจำนวนหนึ่งในปอด และหลอดลม และหัวใจมีลิ่มเลือด ส่วนสาเหตุตายที่ชัดเจน ยังต้องรอผลตรวจจากกรมปศุสัตว์ มีการส่งชิ้นเนื้อ อวัยวะ สารคัดหลั่งไปตรวจทั้งหมดคาดว่าจะออกใน 1 สัปดาห์ รวมทั้งหาเชื้อโควิดด้วย
เมื่อถามว่ามีโอกาสที่เจ้าขุน จะติดโควิด-19 หรือไม่ นายภาคภูมิ กล่าวว่า จากการพูดคุบกับสัตวแพทย์ เบื้องต้นเชื่อว่าไม่มีโอกาสที่เจ้าขุน จะติดโควิด ซึ่งแม้ว่าจะเปิดให้มีคนเข้ามาท่องเที่ยว และดูให้อาหารเจ้าขุนก็ตาม ทั้งนี้ต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น