วันนี้ (18 ส.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเหตุรถบรรทุกกระบะขนแรงงานเมียนมา 32 คน พลิกคว่ำที่ถนนเอเชีย 41 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงสายวันที่ 17 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอีก 4 คน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ได้สั่งการให้ ผบช.ภ.8 ,ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ ผบช.สตม. ลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียด เบื้องต้นพบว่า รถบรรทุกดังกล่าวบรรทุกชาวเมียนมาทั้งหมด 32 คน เป็นชาย 28 คน หญิง 4 คน โดยมีนายนิวัฒน์ วัฒวรรร์ อายุ 29 ปี นั่งโดยสารอยู่หน้ารถกับคนไทยอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนี
ตำรวจสอบสวนนายนิวัฒน์ ให้การอ้างว่า นั่งโดยสารมาเป็นเพื่อนกับคนไทยอีก 2 คน แต่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการขนแรงงานต่างด้าว ส่วนรถกระบะคันเกิดเหตุเช่ามาจากพรรคพวกใน จ.ราชบุรี
ทั้งนี้ ตำรวจไม่เชื่อคำให้การ เนื่องจากการสอบถามชาวเมียนมาที่นั่งมาท้ายรถ ยืนยันว่า นายนิวัฒน์ ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับคนต่างด้าวทั้งหมดที่นั่งโดยสารอยู่ท้ายกระบะ
ขณะเดียวกันชาวเมียนมาทั้งหมดให้การตรงกันว่า ได้ติดต่อผ่านนายหน้าชาวเมียนมาให้ช่วยพาข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยตกลงกันว่า จะมีรถมารับช่วงต่อ เพื่อส่งไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย โดยต้องจ่ายให้กับนายหน้าคนละ 15,000 บาท และเมื่อไปถึงปลายทางต้องจ่ายอีก 15,000 บาท รวมเป็น 30,000 บาท แต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน
ตำรวจตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลพบ ทั้ง 32 คน อยู่ในช่วงอายุประมาณ 20-32 ปี ไม่มีหนังสือเดินทาง แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากจะต้องทำการสอบสวนก่อนว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่
ขณะเดียวกัน วันนี้ได้มีการเชิญสหวิชาชีพ อัยการจังหวัดทุ่งสง นายอำเภอจุฬาภรณ์ พม.จังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาร่วมในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่ สภ.จุฬาภรณ์ เพื่อจะได้สืบสวนขยายผลในทางลึกถึงผู้ร่วมกระบวนการ
ส่วนชาวเมียนมาที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ได้สั่งการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มครองความปลอดภัยของในฐานะพยาน และให้ดำเนินการสอบสวนทันทีหลังอาการปลอดภัยหรือให้การได้
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุอีกว่า คดีนี้ผู้กระทำผิดจะมีความผิดในข้อหา ร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี
สำหรับผู้ที่หลบหนี ก็จะทำการสืบสวน ออกหมายจับเอาตัวมาดำเนินคดี พร้อมเตือนถึงผู้ที่คิดจะกระทำผิด หรือกระทำอยู่ ท้ายที่สุดจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยกวดขันระวังป้องกันมิให้มีการลักลอบขนแรงงานโดยผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด หากพบการกระทำผิด ให้ทำการขยายผลถึงผู้ร่วมกระบวนการทุกคน