วันนี้ (26 ก.ย.2565) นายวิวัฒน์ชัย สมคำ หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคเหนือ ไทยพีบีเอส วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองท้องถิ่น ในรายการ "มุมการเมือง" ช่วง "ทั่วถิ่นการเมือง" โดยระบุว่า การ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยในการเลือกตั้งครั้งหน้า จ.เพชรบูรณ์ได้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เขต จากเดิม 5 เขต รวม 6 เขตเลือกตั้ง
จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2562 ที่ผ่านมา จ.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐกวาด ส.ส.ยกทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวน 5 เขตเลือกตั้ง ได้แก่ เขต 1 น.ส.พิมพ์พร พฤฒิพันธุ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ 37,011 คะแนน, เขต 2 นายจักรัตน์ พั้วช่วย พรรคพลังประชารัฐ ได้ 49,741 คะแนน
เขต 3 นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ 43,120 คะแนน, เขต 4 นายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ 33,225 คะแนน, เขต 5 นายเอี่ยม ทองใจสด พรรคพลังประชารัฐ ได้ 36,034 คะแนน
ดังนั้น การลงพื้นที่ครั้งนี้จึงมีนัยสำคัญเพราะเป็นพื้นที่ของนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และ รมช.คลัง เพราะหากพลาดเพียง 1 เก้าอี้ก็จะเสียหน้า เพราะที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐไม่มีคู่แข่ง เนื่องจากพรรคไทยรักษาชาติถูกตัดสิทธิทางการเมือง
ขณะที่คู่แข่งที่สำคัญคือพรรคอนาคตใหม่ ในขณะนั้นทั้ง 5 เขตเลือกตั้ง ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ (พรรคก้าวไกล) มีคะแนนติดอันดับ 1 ใน 5 และไม่ต่ำกว่า 10,000 แทบทั้งสิ้น
โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ 5 นายเกรียงไกร ปานสีทอง ได้คะแนนเสียง 30,371 คะแนน แพ้นายเอี่ยม ทองใจสด ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ 10 สมัย ไปเพียง 5,663 คะแนน โดยนายเอี่ยมได้คะแนน 36,034 คะแนน
ขณะที่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่ใกล้จะมาถึงนี้ พรรคเพื่อไทยได้ลงแข่งขันด้วย เนื่องจากครั้งที่แล้วหลีกทางให้กับพรรคไทยรักษาชาติ และน่าจะส่งอดีตผู้สมัคร ในปี 62 ส.ส.ไทยรักษาชาติ อย่าง น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา หรือ “ปอย-ตรีชฎา” ลงแข่งขัน รวมถึง อดีต ส.ส.หลายสมัยอีกหลายคน ลงแข่งขัน
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งครั้งก่อน ไม่มีพรรคเพื่อไทยและผู้สนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติ จึงทำให้คะแนนเสียงไหลไปยังพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคก้าวไกลในปัจจุบันที่ได้คะแนนสูง แต่ครั้งนี้เมื่อพรรคเพื่อไทยลงแข่งขันเองคนกลุ่มนี้ก็จะหันไปสนับสนุน หาก ส.ส.เก่าทำพื้นที่ไม่ดี หรือ ทิ้งพื้นที่ ก็มีสิทธิที่จะหนาวเหมือนกัน
ขณะที่บรรยากาศในการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ใน จ.พิจิตร ก่อนหน้านี้มีการขึ้นป้ายขนาดใหญ่ ขณะนี้ก็ทยอยเก็บเนื่องจากเข้าสู่ช่วง 180 วันก่อนเลือกตั้ง
อดีต ส.ส.เก่าหลายคนใช้วิธีการ เช่น นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ใช้วิธีลงพื้นที่หาเสียงค่ำที่ไหน นอนที่นั่น และขณะนี้ย้ายมาพรรคภูมิใจไทย พร้อมหอบหิ้วพี่น้อง 2 คน และลูกชาย ของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ คือ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลงพื้นที่เขต 3 จ.พิจิตร ด้วย ซึ่งเป็นพื้นที่ของ พล.ต.สนั่น มาก่อน
ขณะที่ ส.ส.เจ้าถิ่น พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 3 คน โดย ส.ส.เขต 1 ขณะนี้ได้ย้ายไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย และเขต 2 ของกลุ่มสามมิตร และ เขต 3 ของกลุ่มนายหิมาลัย ผิวพรรณ (เสธ.หิมาลัย) ที่ยังไม่เป็นเนื้อเดียวกันกับพรรคพลังประชารัฐ