จีนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 เร่งฉีดวัคซีน ปชช.

ต่างประเทศ
30 พ.ย. 65
06:24
274
Logo Thai PBS
จีนผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 เร่งฉีดวัคซีน ปชช.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
การประท้วงในจีนที่เกิดขึ้นตั้งแต่สุดสัปดาห์ และเป็นกระแสต่อต้านรัฐบาลที่แรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ส่งผลให้ทางการจีนผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 บางส่วนลง หลังจากเมื่อวานนี้ประกาศปรับให้มาตรการควบคุมโรคบางส่วนยืดหยุ่นมากขึ้น

นอกจากนั้น ทางการจีนยังให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อีกครั้ง หลังจากเกิดกระแสวิจารณ์ว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่ไม่มากพอ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องยึดติดกับมาตรการโควิดเป็นศูนย์ แต่ขณะเดียวกันยังพบการประท้วงของประชาชนที่ไม่พอใจมาตรการควบคุมโรคในบางพื้นที่

ประชาชนจำนวนมากพยายามดันแผงกั้นและยื้อไปมากับเจ้าหน้าที่ที่สวมชุดป้องกันโรค ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนด้วยความไม่พอใจ ระหว่างการกระทบกระทั่งกันอีกครั้งของประชาชนกับเจ้าหน้าที่จีน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ย.2565) ในเมืองจี่หนาน มณฑลชานตง ทางตะวันออกของจีน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ประชาชนในกวางโจวบันทึกภาพผู้คนที่มาออกันแถบที่เจ้าหน้าที่ตั้งแผงกั้นบริเวณ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ปิดพื้นที่มานับสัปดาห์ โดยใช้แผงกั้นปิดตามจุดต่างๆ เพื่อจำกัดการเดินทางของผู้ที่พักอาศัยในแต่ละจุด

ส่วนในกรุงปักกิ่งยังมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในบางจุด แม้ผ่านการประท้วงช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีตำรวจประจำตามบริเวณริมแม่น้ำที่เกิดการประท้วงก่อนหน้านี้ ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

สถานการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ยังเกิดขึ้นที่เมืองใหญ่อย่างนครเซี่ยงไฮ้เช่นกัน รวมถึงในเซินเจิ้น ซึ่งมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ประมาณ 150 นาย ปรากฏตัวที่ย่านการค้าใจกลางเมือง หลังมีข่าวลือว่าจะมีการชุมนุมประท้วง

คณะกรรมาธิการด้านกฎหมายและการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งดูแลการบังคับใช้กฎหมายทั่วประเทศระบุว่า การปราบปรามการแทรกแซงและกิจกรรมก่อความไม่สงบตามกฎหมาย เป็นสิ่งที่จำเป็น ซึ่งข้อความนี้เผยแพร่ผ่านสำนักข่าวซินหัว แต่ไม่ได้กล่าวถึงการประท้วงโดยตรง

นอกจากมาตรการโควิด-19 จะรบกวนการใช้ชีวิตของชาวจีนมาร่วม 3 ปี สถานการณ์ที่ดูไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ยังกระทบต่อบริษัทต่างชาติที่ดำเนินการอยู่ในจีนอีกด้วย เนื่องจากมาตรการเหล่านี้กระทบต่อสายการผลิต และยังเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่า อาจจะต้องปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจจีน เนื่องจากสถานการณ์ในจีนที่ผันผวนอย่างหนัก จากเดิมที่คาดว่าปีหน้าเศรษฐกิจจีนจะโตร้อยละ 4.4

ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักของประเทศที่ระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางสภาวะที่หลายประเทศพยายามดิ้นรนให้พ้นจากผลกระทบจากวิกฤตพลังงาน สงครามในยูเครน และปัญหาเงินเฟ้อ

ล่าสุดหอการค้ายุโรปในจีน ที่มีสมาชิกมากกว่า 1,700 ราย เรียกร้องให้ทางการจีนเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศเพื่อให้สามารถผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคลงได้

หลังจากเผชิญกระแสต่อต้านรัฐครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี ซึ่งตามมาด้วยเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับต้นตอของปัญหาที่ทำให้จีนต้องยึดติดกับมาตรการควบคุมโรค ทางหน่วยงานสาธารณสุขจีนจึงออกมาประกาศแนวทางเร่งฉีดวัคซีนเพิ่ม

หัวหน้าหน่วยงานสุขภาพและภูมิคุ้มกัน จากสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติของจีน ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์ของการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดนั้นยากและซับซ้อน วัคซีนโควิด-19 ยังคงได้ผลดีในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต ประชากรกลุ่มเปราะบาง รวมถึงผู้สูงอายุ ยังอาจกลายเป็นผู้ป่วยหนักและวิกฤตได้หากติดเชื้อ ดังนั้นคนกลุ่มนี้จะได้รับประโยชน์จากวัคซีนมากที่สุด

หน่วยงานร่วมของจีนจึงออกแผนการยกระดับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ผู้สูงอายุ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และประชาสัมพันธ์ได้อย่างตรงจุดมากขึ้น ซึ่งต่อไปจะทำงานร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่น โดยจะเน้นที่กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป

ข้อมูล ณ วันจันทร์ 28 พ.ย.2565

จีนฉีดวัคซีนแล้วมากกว่า 3,443 ล้านโดส ให้ประชากร 1,346 ล้านคน ในจำนวนนี้ประมาณ 1,270 ล้านคนฉีดวัคซีนครบ
เทียบเป็นอัตราการฉีดเข็มแรกคือร้อยละ 92.54 ฉีดครบคือร้อยละ 90.28
นอกจากนี้ มีประชากรฉีดเข็มกระตุ้นประมาณ 181 ล้านคน ใช้วัคซีนจำนวน 3,443 ล้านโดส
และมีการใช้วัคซีนชนิดสูด 48,400 โดส

นอกจากเรื่องวัคซีน หน่วยงานควบคุมโรคของจีน ยังระบุว่า จะจัดตั้งคณะทำงานพิเศษตามท้องถิ่นต่างๆ เพื่อจัดการกับปัญหาการกระทำไม่เหมาะสมในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 หลังจากพบว่า ประชาชนไม่ได้ไม่พอใจมาตรการควบคุมโรคโดยตรง แต่เป็นการบังคับใช้อย่างสุดโต่งในบางครั้ง และใช้มาตรการอย่างเดียวกับทุกสถานการณ์โดยไม่มีการปรับอย่างเหมาะสมของบางพื้นที่

หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสว่าหลายอาคารถูกเจ้าหน้าที่นำโซ่หรืออุปกรณ์ต่างๆ มาขวางประตูทางออกเพื่อกักประชาชนไว้ภายใน อันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เชื่อกันว่าทำให้เกิดโศกนาฏกรรมจากเหตุเพลิงไหม้อาคารพักอาศัยในอุรุมชี

ขณะที่ในฮ่องกงยังคงมีนักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวด้วยการถือกระดาษเปล่า ต่อต้านมาตรการป้องกันโรคของทางการจีน ที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง หลังจากมีการเคลื่อนไหวของจำนวนหนึ่งอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ เพื่อเรียกร้องให้จีนถอนมาตรการโควิด-19

ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ออกมาเรียกร้องให้ทางการจีนผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ตามคำเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วง

นอกจากนี้ ชาวจีนที่ต่อต้านรัฐบาลและอาศัยในไต้หวันยังออกมาร่วมถือกระดาษเปล่าเป็นการแสดงจุดยืนประท้วงทางการจีน

ล่าสุดนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในรัฐแมสซาชูเซตส์ออกมารวมตัวเรียกร้องเสรีภาพ รวมถึงนักศึกษาจากอีกหลายมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ให้ปลดปล่อยชาวจีน ถือเป็นอีกแรงกระเพื่อมจากการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ของชาวจีนที่ส่งไปถึงอีกหลายประเทศทั่วโลกที่ได้เห็นความเคลื่อนไหวในช่วงไม่กี่วันมานี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง