สถานะทางการเงินกรีซเข้าขั้นวิกฤต ปชช.แห่ถอนเงินออกจากธนาคาร

สถานะทางการเงินของกรีซเข้าขั้นวิกฤต หลังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ในเรื่องการขอขยายเวลาชำระหนี้ออกไป ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปประกาศไม่อัดฉีดเงินทุนฉุกเฉินเพิ่มให้กับธนาคารของกรีซ ส่งผลให้ชาวกรีซจำนวนมากถอนเงินออกจากธนาคาร ท่ามกลางความวิตกว่ากรีซจะต้องผิดนัดชำระหนี้และออกจากกลุ่มยูโรโซน

นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีของกรีซ แถลงทางโทรทัศน์ให้ธนาคารปิดทำการเป็นวันหยุดในวันนี้ (29 มิ.ย.2558) และจะใช้มาตรการควบคุมเงินทุน รวมทั้งให้ตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการ หลังประชาชนจำนวนมากไปถอนเงินออกจากธนาคารจนเงินในตู้กดเงินสดหมด นอกจากนี้นายซีปราสยังขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบและให้ความมั่นใจว่าเงินฝากที่อยู่ในธนาคารจะปลอดภัย แต่นายซีปราสไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าธนาคารจะปิดทำการเป็นเวลากี่วันพร้อมกล่าวโทษธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี (ECB) ว่าเป็นต้นเหตุให้กรีซต้องประกาศปิดทำการธนาคาร หลังตัดสินใจไม่เพิ่มเงินทุนอุดหนุนที่ให้กับธนาคารต่างๆของกรีซ

โดยคำประกาศของนายซีปราส มีขึ้นหลังจากกลุ่มเจ้าหนี้ปฏิเสธคำร้องขอของกรีซที่ต้องการให้ขยายเวลาการชำระหนี้เงินกู้ออกไปจากกำหนดเดิมในวันที่ 30 มิ.ย.2558 จนกว่าการลงประชามติในวันที่ 5 ก.ค.2558 เพื่อให้ประชาชนร่วมกันตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่มเจ้าหนี้ในการปล่อยเงินกู้ยืมงวดสุดท้ายให้กับกรีซจะเสร็จสิ้นลง นายซีปราสยังกล่าวอีกว่า คำปฏิเสธของกลุ่มเจ้าหนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะแบล็คเมลประชาชนชาวกรีกและขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตยในการลงประชามติและกล่าวทิ้งท้ายว่าเขายังคงรอคำตอบจากกลุ่มเจ้าหนี้

ด้านรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรหรือยูโรโซน กล่าวตำหนิกรีซที่ทำให้การเจรจาต้องพังลงและได้พิมพ์เผยแพร่ข้อเสนอของกลุ่มเจ้าหนี้ในการเจรจากับกรีซ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ และนางแองเกลา เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี แสดงความวิตกถึงสถานการณ์วิกฤตการเงินของกรีซ โดยทั้งคู่เรียกร้องให้กรีซหาทางกลับสู่การปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่ออยู่ร่วมกับกลุ่มยูโรโซนต่อไป