กทม.จัดเตรียมทีมแพทย์และพยาบาลตามเส้นทางปั่นจักรยาน

กิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจกว่า 2,000 นาย คอยดูแลความเรียบร้อยเส้นทางและประชาชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จฯ นอกจากนี้ กทม.เตรียมทีมแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลสังกัด กทม.และอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ กระจายไปตามเส้นทางปั่นจักรยานบริเวณต่างๆ ด้วย โดยประชาชนที่ได้ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมปั่นไว้ 40,000 คนนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเตรียมจุดจอดบริเวณต่างๆ 4 พื้นที่ ดังนี้ 1.บริเวณรอบๆ พระลานพระราชวังดุสิต รองรับรถยนต์ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม 6,170 คัน 2.บริเวณสนามกีฬากองทัพบกและสโมสรกองทัพบก รองรับรถยนต์ 1,500 คัน 3.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รองรับรถยนต์ 2,000 คัน และ 4.บริเวณกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ รองรับรถยนต์ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม 500 คัน รวมทั้งสิ้น 10,170 คัน

 

นอกจากนี้ กทม.ได้อำนวยความสะดวกในด้านสถานที่จอดรถ คือบริเวณท้องสนามหลวง, ลานคนเมือง, ศาลาว่าการ กทม., ที่จอดรถบริเวณบางลำพู และที่จอดรถบริเวณสำนักงานเขตจตุจักร รองรับรถยนต์ได้ประมาณ 500 คัน อย่างไรก็ตาม หากประชาชนประสงค์จะมาร่วมกิจกรรม ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะจะเป็นการสะดวกรวดเร็วมากที่สุด

 

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากซ้อมวางกำลังไปแล้ว มีความพร้อมกว่าร้อยละ 95 ทั้งจุดวางกำลังพลและจุดจอดรถ แต่จะต้องเพิ่มไฟสว่างในหลายจุด โดยเฉพาะถนนวิภาวดีรังสิต ช่องทางคู่ขนานตลอดทั้งเส้น และช่วงใต้สะพาน 4-5 จุด โดยได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มเติม ก่อนจะตรวจเส้นทางอีกครั้งในวันที่ 14 ส.ค. และซ้อมวางกำลังอีกครั้งวันที่ 15 ส.ค.

 

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า กรมป่าไม้ที่เป็นจุดส่งกำลังของขบวนจักรยาน จะมีเจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาล ช่างบริการซ่อมจักรยาน บริการน้ำดื่ม และห้องน้ำไว้คอยบริการนักปั่นที่ต้องการแวะจอดทำธุระส่วนตัว ซึ่งกรมป่าไม้ได้เตรียมกล้าไม้เอาไว้จำนวน 3,000 กล้า ประกอบด้วย ไม้พะยูง, สัก, สะเดา, ไผ่ และหวาย ซึ่งนักปั่นแต่ละคนสามารถลงชื่อรับกล้าไม้ไปปลูกได้ไม่เกินคนละ 10 ต้น

 

นอกจากกิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ อีกด้วย ซึ่งที่ จ.มหาสารคาม หัวหน้าส่วนราชการการ ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามเข้าร่วมกิจกรรมสาธิตการไถนาแบบดั้งเดิม โดยใช้กระบือ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เรียกว่า ปลูกวันแม่เก็บเกี่ยววันพ่อที่ทางมหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดขึ้นเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ถวายเป็นราชสักการะแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ อีกทั้งเพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รักษาและอนุรักษ์ประเพณีการลงแขกปักดำนาซึ่งเป็นรากฐานของคนไทย

 

ด้านกองทัพเรือ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน เเละประชาชน ร่วมกันปล่อยเต่าทะเล เเละพันธุ์สัตว์น้ำกลับคืนสู่ท้องทะเล เฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อให้เต่า และสัตว์น้ำทะเลกลับไปผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ และเพิ่มจำนวนประชากรเต่าทะเลให้แก่ท้องทะเลไทย

 

ขณะที่เยาวชน ต.บ้านเเห อ.เมือง จ.อ่างทอง กว่า 50 คน รวมตัวกันทำกิจกรรมวาดภาพ และระบายสีตัวการ์ตูนชื่อดัง บนสะพานข้ามคลองชลประทาน เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติของปีนี้ ซึ่งนอกจากสร้างสีสันให้กับสะพานข้ามคลองแห่งนี้แล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดึงเด็กออกจากอบายมุข

 

ด้านคณะผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้างของเทศบาลนครอุดรธานี และนักเรียนสังกัดเทศบาลนครอุดรธานีกว่า 1000 คน ร่วมทำกิจกรรมแปรอักษรเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ บริเวณลานหน้าศาลาพิธี สนามทุ่งศรีเมือง

 

ส่วนที่ จ.ปทุมธานี ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรที่ตู้ลงนามถวายพระพรไฮเทค ซึ่งเป็นเครื่องถวายพระพรออนไลน์ของมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ซึ่งเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ "ทำดีมีคนเห็น" โครงการที่ปลูกจิตสำนึกการทำความดีและแสดงออกเพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์