คสช.เผย "วรรณา สวนสัน" ผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดติดต่อเจ้าหน้าที่แล้ว

อาชญากรรม
1 ก.ย. 58
07:26
117
Logo Thai PBS
คสช.เผย "วรรณา สวนสัน" ผู้ต้องสงสัยคดีระเบิดติดต่อเจ้าหน้าที่แล้ว

คสช.แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยระบุนางวรรณา สวนสัน ผู้ต้องสังสัยคดีระเบิดในกรุงเทพฯ ซึ่งพำนักอยู่ต่างประเทศได้ติดต่อประสานกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจในวันนี้ (1 ก.ย.2558) ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่าจำนวนการจองเครื่องบินมายังประเทศไทยยังอยู่ในระดับปกติ สำหรับการดำเนินการต่อผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติทั้ง 14 ราย ได้ให้ความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายศพกลับประเทศ และประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว 
 
สำหรับความคืบหน้าในการสอบสวนคดีตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัยแล้วจำนวน 4 ราย ได้แก่ ชายที่สวมเสื้อสีเหลือง ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ราชประสงค์, ชายที่สวมเสื้อสีฟ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณืที่ท่าเรือสาทร, ชายตามภาพสเก็ตช์ ซึ่งมีผู้พบเห็นว่าเป็นผู้พักอาศัยในห้องเช่าย่านมีนบุรี ที่ทางเจ้าหน้าที่ไปตรวจพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบระเบิด และนางวรรณา สวนสัน ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเปิดเช่าห้องพักในพื้นที่มีนบุรีจำนวนหลายห้อง ซึ่งมีชาวต่างชาติตามภาพสเก็ตช์เข้ามาพักอาศัย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนางวรรณา ซึ่งในปัจจุบันพำนักในต่างประเทศ ได้ติดต่อประสานกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว 
 
ล่าสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการซักถามผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวได้จากพื้นที่หนองจอกเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
 
ทั้งนี้ จากผลการสอบพยานต่างๆ โดยเฉพาะพยานบุคคลและผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ชี้แจงข้อมูลที่มีความชัดเจนแล้วเท่านั้น ให้ประชาชนและสังคมได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพื่อให้การขยายผลในการสืบสวนคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการ อาคารที่พัก เกสต์เฮาส์ และห้องเช่าต่างๆ หากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเข้ามาพักอาศัย ก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่ใกล้ที่สุด หรือติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1515 ได้ทันที
 
นอกจากนี้ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกแขนงให้งดการนำเสนอข่าวในเชิงด่วนสรุปหรือคาดเดาไปเอง โดยปราศจากข้อมูลที่ได้รับการยืนยันจากทางราชการ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการชี้นำต่อการรับรู้ของประชาชน จนอาจทำให้สังคมเกิดความตื่นตระหนกและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง