นายกฯระบุ สภาขับเคลื่อนฯสานต่องาน สปช.ไม่ซ้อนทับอำนาจรัฐบาลใหม่

การเมือง
18 ก.ย. 58
17:02
63
Logo Thai PBS
นายกฯระบุ สภาขับเคลื่อนฯสานต่องาน สปช.ไม่ซ้อนทับอำนาจรัฐบาลใหม่

นายกฯเผยโรดแมปอยู่ระยะที่ 2 ยืนยัน สภาขับเคลื่อนฯทำงานสานต่อ สปช.เพื่อการปฏิรูปประเทศไม่ซ้อนทับอำนาจเชิงบริหารของ ระบุคัดเลือก กรธ.ต้องหลากหลาย ระบุปีหน้าแล้งหนักขอชาวนางดทำนาปรัง พร้อมเดินหน้าแก้หนี้เกษตรกร-หนี้นอกระบบ

วันนี้ (18 ก.ย.2558) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2558 เวลา 20.15 น. โดยมีเนื้อหาดังนี้

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนการประชุม ครม. ผมได้มีโอกาสมอบรางวัลการศึกษา แก่เยาวชนนะครับ ซึ่งเป็นผู้ชนะการประกวดวาดภาพ หัวข้อ “ประเทศไทยคือบ้านของเรา เราจะก้าวไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง ที่คำภาษาอังกฤษก็คือ OUR HOME OUR COUNTRY STRONGER TOGETHER”  ภาพที่เด็กๆ วาดออกมานะครับ ด้วยความตั้งอกตั้งใจนั้น แสดงให้เห็นถึงไม่เฉพาะฝีมือทางศิลปะเท่านั้นนะครับ สะท้อนถึงแนวคิดต่างๆ ของเขาเอง แล้วก็เห็นถึงความหวัง ความฝันของเด็กๆ ที่ต้องการให้ประเทศไทยของเราได้รับการพัฒนา แล้วก็ไม่อยากเห็นความขัดแย้ง ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นมา อยากให้พวกเราทุกคนนะครับรักสามัคคีกัน ร่วมมือกันนำพาประเทศชาติไปสู่ความสุขที่ยั่งยืนครับ ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล และขอขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังนะครับ ครูอาจารย์ที่สอน ที่ให้แนวคิดต่างๆ เหล่านั้นด้วยนะครับ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่จัดกิจกรรม และผู้ปกครองที่ให้การสนับสนุน เป็นที่ปรึกษาลูกหลาน ปลูกฝังความรู้สึก รู้รัก สามัคคีให้กับเยาวชนของชาติ ผ่านงานศิลปะในครั้งนี้ด้วยครับ

วันนี้ ผมมีคำพูดจากใจผมเองนะครับ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะคิดยังไงก็แล้วแต่ แต่ผมอยากจะเรียนให้ทราบนะครับ ว่าให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำ อย่างที่ผมคิดนี่ จะได้หรือไม่ โดยเป็นการทำงานร่วมกับ คสช. และรัฐบาลนะครับ เพื่อประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งนี้ คสช. และรัฐบาล อยากจะขอเชิญชวนคนไทยทุกคน ช่วยกันทำความสะอาดประเทศของเรา บ้านของเราให้ผ่านพ้นความเลวร้ายนานาประการนะครับ ก็มีทั้งดีและไม่ดีนะครับ อาจจะเกิดจากกลุ่มคนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ใช้วิธีการที่ละมุนละม่อม ปราศจากความรุนแรง กำจัดคนเหล่านี้ออกไปให้ได้นะครับ ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่และกระบวนการยุติธรรม ที่ต้องทำงาน ช่วยกันค้นหาความจริงในเรื่องต่าง ๆ ให้ได้ ที่คนเหล่านั้นทำไว้นะครับ แล้วอาจจะต้องมาเผยแพร่ ทำความเข้าใจ เพื่อจะสร้างความรู้สึกร่วมกัน ในการที่จะแก้ปัญหาต่างๆของประเทศชาติ  ให้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ขอร้องว่า อย่าใช้ความรุนแรงต่อกันเลย ผมเห็นว่าใน โซเชียล มีเดียบ้าง หรือในตามสื่อตามสังคมต่างๆ ก็เริ่มมีการใช้ความรุนแรงต่อกัน ด้วยคำพูด ด้วยวาจากันแล้วนะครับ ผมก็ขอร้อง อย่าให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นอีกเลย  ผมเรียนไปแล้วหลายครั้งว่า ทุกคนเห็นต่างได้ แม้กระทั่งผมเองก็ตาม ผมก็ยอมรับในความเห็นต่างนะครับ เพียงแต่ว่าบางอย่างผมจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะให้มีข้อยุติอย่างไรนะครับ เพราะผมเป็นคนต้องรักษากติกาตัวนี้  ถึงแม้ว่าจะ ขัดแย้งกัน แต่ท่านก็ต้องรู้ว่าท่านควรจะแสดงออกอย่างไรนะครับ ไม่ได้หมายความว่าผมจะปิดกั้นแล้วให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมคิดทุกอย่างเป็นไปไม่ได้หรอกครับ เพราะวันนี้ที่ผมทำมาทั้งหมด ผมก็ใช้สิ่งต่างๆ ที่หลายคนเสนอมาถึงแม้จะเป็นความคิดเห็นที่แตกต่าง ผมก็เอามาประยุกต์ มารวบรวม ให้ได้ข้อยุติในการทำงานในการสั่งงานของผมมาโดยตลอดนะครับ  ก็ขอเถิดครับ อย่าให้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ อีกเลย หรืออำนาจอื่นๆ ก็ตามนะครับ ไม่งั้นก็ไม่มีวันสิ้นสุดซะทีนะ หลายคนก็พยายามบังคับเหมือนกับตั้งใจ ให้เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นให้ผมต้องใช้อำนาจพิเศษ เพื่อที่จะเอาเหตุการณ์เหล่านั้นไปอ้างกับองค์กรอื่นๆ บ้าง อะไรบ้างแล้วให้กลับมาเล่นงานประเทศไทย หรือ เล่นงานผมก็ตาม ก็คิดว่าพ่อแม่ พี่น้อง ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจอยู่แล้ว นะครับ ก็ขอร้องกันว่าให้ไปหยุดคนเหล่านี้ซะ อย่าให้ทำอีกต่อไปเลยนะครับ

เพราะถ้าหากว่าพี่น้องประชาชนทุกคน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ประเทศชาติมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ตรงกันแล้วล่ะก็ ก็ทำสำเร็จทุกอย่างนะครับ ไม่มุ่งหวังแต่ประโยชน์ส่วนตน ประเทศชาติก็จะเจริญรุ่งเรือง สะอาดเรียบร้อย ปลอดภัย  แล้วก็แข็งแกร่งไปด้วยกันนะครับ

คำว่า “ ประเทศเป็นบ้าน  ทหารเป็นรั้ว” วันนี้อาจจะไม่พอแล้วนะครับ  อาจต้องใช้คำว่า “ ประเทศเป็นบ้าน ประชาชน – ข้าราชการทุกหมู่เหล่าเป็นรั้ว รั้วชั้นนอกก็ให้ทหารดูแลเป็นหลักอยู่แล้ว  รั้วชั้นในนั้นข้าราชการ ประชาชนต้องช่วยกันดูแลนะครับ การเฝ้าระวังจะเป็นการเหมาะสมกับสถานการณ์วันนี้นะครับ เพื่อสุขร่วมกัน สร้างความสงบสุข ปลอดภัย สร้างสันติสุข อย่างยั่งยืนให้กับประเทศของเราให้ได้

การที่ประเทศใด ๆ เกิดความขัดแย้ง มีการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันนั้น ก็อาจจะเกิดมาจากเพื่อประโยชน์ของผู้นำแต่ละฝ่ายนะครับ ซึ่งมีความคิดความหวัง ความคาดการณ์แตกต่างกันออกไปนะครับ ซึ่งถ้าหากยุติไม่ได้ เรื่องเหล่านั้นจะนำความพิบัติมาสู่ประเทศ และประชาชน  ดังนั้นใครก็ตาม ผู้ที่มีอำนาจ หรือผู้ที่อยากจะมีอำนาจ ถ้าได้มาแล้วก็จำเป็นต้องใช้อำนาจในทางที่ถูก ในการที่จะสร้างสรรค์ ขจัดปัญหาที่หมักหมม มายาวนานนะครับ ไม่ใช่ใช้อำนาจเพียงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง พวกพ้อง หรือพยายามมุ่งมั่น หรือพยายามรักษาอำนาจที่ได้มาแล้วนั้น ในทางที่ผิดนะครับ ที่ผ่านมา ผู้นำที่ไม่ดี ก็อาจจะใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง ทุกท่านก็ทราบดีอยู่แล้วนะครับ เราจำเป็นให้ทุกอย่างนั้นเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยด้วยขบวนการ ยุติธรรมด้วยนะครับ เพราะงั้นผมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ในการจะร่วมมือกันในการ ป้องกัน และป้องปราม และปราบปรามคนที่ไม่ดี ให้หมดสิ้นไปนะครับ ด้วยกระบวนการยุติธรรมนะครับ แล้วก็คงไม่ใช่ร่วมมืออย่างเดียว ต้องขอความร่วมใจกันด้วยนะครับ ถึงจะสำเร็จได้  ในไม่ช้านะครับ หลายคนแสดงความคิดเห็น แต่ก็บอกว่าไม่ทราบจะทำยังไงเหมือนกัน ก็ทำได้หมดแหละครับ ถ้าหากว่าเป็นการเฝ้าระวัง มีอะไรผิดปกติก็แจ้งมา มีหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมก็แจ้งมานะครับ ไม่ต้องเกรงใจ ผมก็พร้อมจะรับไปพิจาณาทั้งหมด แต่เรื่องเยอะจริงๆ นะ วันนี้ก็มีคนส่งมามากมาย ก็ทยอยดำเนินการมาโดยตลอด ขณะเดียวกันก็มีกระแสต่อต้านมามากขึ้นเรื่อยๆ  ก็ไม่รู้ว่าไปเกี่ยวข้องกับคนเหล่านั้นบ้างหรือเปล่านะครับ

ประเทศของเรา หรือหลายๆ ประเทศในโลกนี้จะพระกอบไปด้วยพื้นที่ ทรัพยากร และประชาชนนะครับ หากประเทศใดมีพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ มีการจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสม  ประชาชนมีความเข้มแข็ง มีจิตใจเพื่อส่วนรวม มุ่งหวังทำประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ ประเทศนั้นย่อมปลอดภัย ประชาชนย่อมมีความสุข

ประเทศไทยในขณะนี้ เปรียบเสมือนเป็นช่วงเวลาสำคัญนะครับ ในการกำจัดเชื้อโรคร้าย    พร้อมร่วมมือกันที่จะสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ต่อสิ่งเลวร้ายทั้งปวงที่เกิดขึ้น ในอดีตที่ผ่านมาไม่ให้เกิดขึ้นอีก ให้สมกับว่าเราอยู่ในแผ่นดินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ของเรามาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

สำหรับในระบอบประชาธิปไตยนั้น อำนาจที่ประชาชนมอบให้ผู้บริหารประเทศไปแล้วนั้น ผมคิดว่าเป็นการมอบด้วยความเชื่อมั่น ความ บริสุทธิ์ใจ ความไว้วางใจอย่างแท้จริงนะครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า อำนาจที่มอบให้ไปแล้วนั้น ผู้ที่บริหารประเทศนั้นไปใช้ทำอะไรก็ได้ จะถูก จะผิดไม่ได้อีกแล้วต่อไป นะครับ เพราะฉะนั้นหากผู้นำ หรือรัฐบาลใด ไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดไปจากเจตนารมณ์ของประชาชน ในการเลือกตั้งเข้ามา ที่เขามอบให้ด้วยความศรัทธาเชื่อมั่น และหวังที่จะเห็นประเทศชาติเจริญ ประชาชนอยู่ดีกินดี ทุกๆ อย่างได้รับการเปลี่ยนแปลงพัฒนาให้ดีขึ้นนะครับ ถ้าท่านไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ย่อมถือเป็นการทรยศนะครับ ทรยศต่อคำสัญญาที่มีต่อประชาชน แล้วก็ท่านไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้เลยนะครับ ถือว่าท่านไม่มีอุดมการณ์อันแน่วแน่ ที่จะทำให้กับประเทศชาติและประชาชน

ตัวอย่างของประเทศที่ต้องตกอยู่ในภาวะ “ประเทศล้มเหลว (ที่เรียกว่า Failed State)”  มีให้เราเห็นหลายแห่ง  มีคนได้รวบรวมแล้วนำมาวิเคราะห์ว่าจริงหรือไม่ เขาเขียนไว้ว่า “ความล้มเหลวแห่งรัฐ”  ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศต่างๆ ทั่วโลกล้วนเป็นผลมาจากการกระทำของผู้นำและรัฐบาลทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวกับที่ตั้ง สภาพแวดล้อม ประชากร หรือประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น

1.         ผู้นำประเทศที่ไม่มีจริยธรรม มีแต่ความโลภ ทำตัวเป็นเจ้าของธุรกิจผูกขาด ใช้อำนาจออกมาตรการกีดกันคู่แข่ง และใช้สิทธิพิเศษทางการเมือง มุ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจ
2.         รัฐบาลที่อ่อนแอ บริหารประเทศไม่ได้ ไม่สามารถออกหรือใช้ หรือบังคับใช้กฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สังคมไร้กฎหมาย ไร้ระบบ ระเบียบ ไร้กฎกติกา เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
3.         ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม รัฐบาลใช้ระบบ 2 มาตรฐาน แบ่งแยกประชาชนออกเป็น 2 ฝ่าย ให้เกิดความขัดแย้งซึ่งกันและกัน
4.         รัฐบาลไม่ส่งเสริมการพัฒนาแบบยั่งยืน มีผู้นำขาดวิสัยทัศน์ ปฏิเสธนวัตกรรมใหม่ๆ กีดกันไม่ให้ประชาชนได้รับการศึกษาที่เหมาะสม เพื่อง่ายต่อการปกครอง อันนี้เป็นคำเขียนนะครับ เป็นหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง รู้สึกจะเป็นชาวต่างประเทศเขียน

ผมขอยืนยันนะครับว่า คสช. และรัฐบาลนี้ มีอุดมการณ์และความมุ่งมั่น อย่างจริงใจที่จะทำทุกอย่างให้กับพี่น้องประชาชน และประเทศชาติ โดยไม่มีใครมุ่งหวังประโยชน์ส่วนตนอย่างแน่นอนครับ
ระบุ”รัฐบาล-คสช.”อยู่ในโรดแมประยะที่ 2

ทั้งนี้ รัฐบาลและ คสช. ยังคงมีหน้าที่ นำพาประเทศ ผ่าฟันอุปสรรค ต่อไปอีกระยะหนึ่ง  ตามRoadmap ของเรา ซึ่งในระยะที่ 2 นับจากกันยายน 2558 – กรกฎาคม 2560 หรือน้อยกว่านั้น ก็จะมีโครงสร้างในการบริหารราชการแผ่นดิน ของรัฐบาล 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหาร  ด้านการปฏิรูป ด้านการปรองดองนะครับ ในระยะแรก โดยมี คสช. ซึ่งเน้นภารกิจด้านความมั่นคงและการรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นหลักนะครับ ดูแลพี่น้องยากจน รายได้น้อย มาตรการช่วยเหลอให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส ทั่วถึงนะครับ แล้วก็จะเป็นเครื่องมือ เป็นกลไกพิเศษ ช่วยคลี่คลายปัญหาในการทำงานของรัฐบาล เป็นไปอย่างทันต่อเหตุการณ์และมีประสิทธิภาพ ในส่วนการใช้มาตรา 44  นั้น ที่ผ่านมาใช้ไปแล้ว 27 ครั้ง และทุกเรื่อง เป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ นะครับ เพราะว่าเรามีคณะกรรมการ นอกจากกรรมการของ คสช. แล้วเมื่อตัดสินใจจะใช้ ก็จะใช้อำนาจของ คสช. ในการที่จะออกคำสั่งฉบับนั้น แล้วรัฐบาล ก็สามารถที่จะแก้ปัญหาหลายๆอย่างที่มีความขัดแย้งกันในเรื่องของกฎหมาย ความไม่พร้อม ความไม่ทันสมัย เหล่านั้น มาสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดขึ้น ในสิ่งที่เป็นปัญหามายาวนาน หลายเรื่อง

นอกจากในเรื่องการทำงานลักษณะนี้แล้ว เราก็ยังมีคณะกรรมการขับเคลื่อนต่างๆ อีกหลายคณะนะครับ มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพิ่มขึ้นอีก ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไว้ ช่วยงานรัฐบาลทั้ง 3 ด้าน ด้วยการผนวก 11 ประเด็นปฏิรูปของ คสช. เข้ากับ ข้อเสนอเดิมของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 36 ประเด็นปฏิรูป กับอีก 7 ประเด็นพัฒนา รวมทั้งนโยบายใหม่ๆ ของรัฐบาล เป็นแนวทางครับ  สำหรับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นั้น ก็มีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะกรณีที่การขับเคลื่อนบริหารราชการ จำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับ ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศของเราเดินหน้าต่อไปได้ อย่างต่อเนื่อง และไม่หยุดชะงักอีกนะครับ

สภาขับเคลื่อนฯสานต่องานปฏิรูปของสปช.ไม่ซ้อนทับอำนาจรัฐบาล

สำหรับสภาขับเคลื่อน ก็จะทำหน้าที่ต่อจาก สปช. นั่นแหละครับ ก็จะมาทบทวน มาจัดระเบียบ มาทำให้สอดคล้องเข้ากับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนะครับ แล้วก็หาวิธีการว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป เพื่อจะทำให้สิ่งเหล่านั้นปฏิบัติได้โดยที่ไม่ไปทาบทับอำนาจในเชิงบริหารอย่างที่ทุกคนเกรงกลัวกัน เกรงกลัวว่าคณะกรรมการ ถ้ามีขึ้นมาแล้วก็จะไปทาบทับกับอำนาจของรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ผมยืนยันเจตนารมณ์ผม ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลย มีแต่ว่าจะช่วยเขาอย่างไร ก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันนะครับ ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ผมรู้ดีนะครับว่าปัญหาประเทศอยู่ที่ไหน ท่านก็รู้ดี แต่เราจะหาหนทางอย่างไรที่ทำให้ประเทศชาติเราเดินไปข้างหน้า ถ้ายังทะเลาะขัดแย้งกันอยู่ในขณะนี้ ก็ไปไม่ได้อยู่เหมือนเดิม ประชาชนเป็นผู้เดือดร้อนนะครับ ไม่ว่าใครจะชนะ ใครจะแพ้ก็ตาม ประชาชนเป็นผู้ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น ตอนนี้ผมกังวลกับประชาชนมากที่สุดนะครับ

คัดเลือก “กรธ.-สปท.”ต้องมีความหลากหลาย

ในเรื่องของการจัดตั้ง ไม่ว่าจะเป็น กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศนั้น  ผมกำลังพิจารณาอยู่นะครับ  ก็ขอให้ไว้วางใจกันหน่อยนะครับ แล้วการร่างหรือการพิจารณาอะไรก็ตาม ก็ไม่ได้ปิดลับอะไรนะครับ ก็ให้รับรู้ไปตลอดระยะเวลาที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมดนะครับ เพราะงั้นถ้าหากขัดแย้งกันอีก ก็เป็นไปไม่ได้อีก เหมือนเดิมนะครับเพราะงั้นผมเกริ่นกับท่านไว้ก่อน อย่ามาลงว่าผมจะต้องเป็นคนชี้ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้  ผมเพียงแต่ว่า แสดงความคิดเห็นเหมือนกัน เหมือนกับท่าน เพราะท่านก็แสดงความคิดเห็นกันทุกคน ทุกภาค ทุกการเมือง ทุกอะไรก็แสดงออกมาตลอดนะ เพราะงั้นผมก็ถือว่าในเมื่อบอกว่าผมต้องให้ความยุติธรรม ให้ความเป็นธรรม ผมก็จะเสนอของผมบ้าง ก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการจะพิจารณากันเอาเองก็แล้วกัน ว่าควรจะเป็นยังไงนะครับ  

สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ผมได้จัดให้มีการประชุม ครม. คสช. สนช.ร่วมกันนะครับก็ให้แนวทางในการคัดเลือกบุคคลว่าจะต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถจากทุกภาคส่วนนะครับ เป็นคนดี มีคุณธรรมเป็นคนที่ทำเพื่อชาติ บ้านเมืองมีความรู้ความสามารถ คนนี่ยังไงก็เป็นคนนะ มนุษย์ก็ไม่มีอะไรที่ 100% เพียงแต่ว่าเขามีจิตปรารถนา อย่างไรนะครับ แต่ข้อบกพร่อง ข้อผิดพลาดทุกคน ต้องยอมรับว่าทุกคนมีความผิดพลาด ทั้งสิ้น วันนี้เราก็เอาความผิดพลาดทั้งหมดมาดูซิ แล้วเราจะแก้กันยังไง แก้ที่ตัวเอง แก้ที่สังคม แก้ที่ประชาชน แก้ที่การเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจมีต่อกันนั้นน้อย ที่ผ่านมา เขาเรียกว่า ไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ต้องลดตรงนี้ให้ได้นะครับ เพราะงั้นคนเหล่านี้ก็ไม่ได้มาจากไหน มาจาก สปช.เดิมบ้าง นักกฎหมาย นักวิชาการ ฝ่ายความมั่นคง ข้าราชการทั้งเกษียณ ไม่เกษียณ ภาคประชาสังคม  การค้าการลงทุน ภาคประชาชน มีหมดนะครับ แล้วท่านบอกว่าเราร่างมาอีกกลายเป็นร่างโดยข้าราชการอีกจะปฏิรูปได้ยังไง ผมก็ให้มีส่วนแต่ละส่วนเข้าไปผสมด้วยนะครับ แล้วการร่างครั้งที่แล้ว หรือการทำแผนปฏิรูปครั้งที่แล้ว ก็มีทุกภาคส่วน เยอะด้วยนะ ทหารก็มี ไม่มาก ก็เก็บเอาไว้แล้วยังไง ถ้ายังไม่พอ ก็ใส่เข้ามาอีก  แต่ถ้าเราเอาทั้งหมดนี่ ใส่เข้าไปที่ไม่รู้เรื่อง เรื่องกฎหมาย ไม่รู้เรื่องระเบียบราชการ ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ก็จะเถียงกันอยู่นั่นแหละ รู้โจทย์ รู้ปัญหารู้ว่าสุดท้ายต้องการอะไร แต่ไม่รู้วิธีการนั่นแหละคือความจะเป็นที่ต้องมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากให้เกี่ยว แต่ก็จำเป็นไม่งั้นท่านก็ปรับปฏิรูปเขาจนเละไปหมดน่ะท่านไม่รู้ว่าเขาทำงานยังไงที่ผ่านมา เพราะทาบทับกันไปหมดแล้วเสร็จแล้ว ท้ายสุด วันนี้ข้อบกพร่อง ความผิดพลาดเกิดขึ้น ท่านโยน กลับมาที่เขาหมด ข้าราชการหมดเลย มันไม่ได้นะครับ ฝ่ายการเมืองก็โทษกลับมาข้าราชการก็ดี เห็นใจเขาบ้างนะครับ ไม่มีใครอยากทำเลวอยู่แล้ว ถ้าไม่มีคนนำพาแบบนั้น

ปีหน้าแล้งหนักขอชาวนางดทำนาปรัง

สัปดาห์นี้ผมได้เรียกคณะรัฐมนตรีเฉพาะกิจมาประชุม ตั้งขึ้นมาอีกแล้วนะครับเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน เช่นดูแลความยากจน แก้ปัญหาเร่งด่วนในเรื่องของเศรษฐกิจในช่วงนี้ แล้วก็เรื่องของการแก้ไขปัญหาภัยแล้งนะครับ ซึ่งคาดว่าจะร้ายแรงขึ้นมากกว่าปีนี้อีก ตั้งแต่เดือน พ.ย. – ธ.ค. นี้เป็นต้นไปนะครับ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและแม่กลอง พี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรังไปแล้วบ้างก็คงต้องได้รับผลกระทบแน่นอน กรณีขาดการสนับสนุนน้ำจากระบบชลประทานได้  วันนี้ก็ขอร้องกันแต่ว่าขอร้องไม่ค่อยได้นะทุกคนก็ไม่รู้จะทำอะไรก็ต้องปลูกไป แล้วก็เสียหายมาก็เดือดร้อนไปหมดนะ รัฐบาลก็พยายามที่จะแนะนำพยายามที่จะบอกให้ไปเปลี่ยน โน่น เปลี่ยนนี่ บางคนสนใจก็ได้ไป บางคนไม่ค่อยสนใจก็เสียหายอีก เหมือนเดิมนะ เพราะงั้นผมขอแจ้งเตือนพี่น้องเกษตรกรนะครับ  ขอให้ฟังเจ้าหน้าที่รัฐเขาด้วย พยายามทุกอย่าง เงินทองก็ให้ไปแล้ว ไม่ได้ให้ไปใช้หนี้ ให้ใช้ไปเพื่อเตรียมการรองรับเรื่องฝนแล้ง รองรับเรื่องอาชีพ หรือไม่ก็ร่วมมือกันจ้างงาน สร้างซ่อมถนนหนทางบ้าง อะไรบ้าง ขุดลอกแหล่งน้ำทำฝายอะไรต่างๆ นี่ ให้ไปแบบนี้ เรียกว่าให้เบ็ดไปตกปลานะครับ แต่ส่วนที่ให้ขาดไป เช่นเงินช่วยเหลืออะไรต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อประทังชีพนั้น เป็นเรื่องของให้ปลาไปนิดหน่อย ชั่วคราว ให้ปลาทั้งหมด ไม่มีปลาให้พอหรอกครับเพราะบ้านนี้ เมืองนี้ ประเทศนี้ มีคนตั้งหลากหลาย มีหลายอาชีพนะครับ ก็จนทั้งสิ้น นอกจากเกษตรกรแล้ว มีรับจ้าง อาชีพแม่บ้าน ทำงานบ้าน เยอะแยะไปหมด ถ้าเราให้เกษตรกรอย่างเดียว แล้วคนอื่นเขาเอาที่ไหนล่ะ ก็ต้องแบ่งปันเฉลี่ยไปตามความลำบากนะครับ แต่เอาทั้งหมดไม่ได้ เพราะรัฐบาลก็มีรายได้แต่เพียงเท่านี้นะครับไม่ได้มีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจก็ลดลง โครงสร้างเศรษฐกิจเราก็ยังเข้มแข็งไม่พอ  ถ้าอีกสัก 2-3 ปีข้างหน้าผมคิดว่าดีขึ้นแน่นอนจากการลงทุน สาธารณูปโภคพื้นฐานบ้าง การลงทุนของ BOI บ้าง

เมื่อวานผมอ่านในสื่อ สื่อเขียนถามบอกว่าการที่เราไปลดภาษี ให้สิทธิประโยชน์กับการค้าการลงทุน ใน BOI หรือในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี่ไม่ทราบเหมือนกันว่ารัฐทำไปเพื่ออะไร แหมผมว่าถ้าอย่างนี้คุยกันไม่รู้เรื่อง ไปดูว่า BOI เขามีหน้าที่อะไร ส่งเสริมการลงทุน แล้วในวันนี้ การลงทุนมีการแย่งการลงทุนทั่วโลก มีการเปลี่ยนพื้นที่การลงทุน ไปประเทศโน้น ประเทศนี้ ย้ายฐานการผลิตไปเราก็ต้องสู้เขา โดยการเพิ่มสิทธิประโยชน์บ้าง ใช้มาตรการทางภาษีบ้าง แต่วันนี้อาจจะเป็นอย่างนี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วภายในระยะเวลาที่เราเว้นภาษีไว้ ต่อไปก็ได้ภาษีมากขึ้นๆ เพราะกิจการมากขึ้น แล้วผมก็เรียนว่าผมไม่ได้ให้เฉพาะลงทุนใหม่ด้วย ต้องหาเงินไปส่งเสริมธุรกิจคนไทย ธุรกิจในท้องที่ ในพื้นที่ ด้วยนะครับ ให้เขาเข้มแข็งขึ้น ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้เขาดีขึ้น แล้วก็ส่งเสริมของใหม่เข้าไป เสริมด้วยการลงทุนต่างประเทศ สร้างชุมชนชนบทขึ้นมา

ก็มีทั้งในส่วนของ คลัสเตอร์ ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในเขตเศรษฐกิจพิเศษ นะครับ คำว่า คลัสเตอร์ก็คือว่ากิจการหลายๆ กิจการถ้าเป็นเรื่องทั่วๆไปนะครับเขาเรียกว่า ได้รับสิทธิประโยชน์อันหนึ่ง ถ้า BOI เปล่าๆ ก็BOI เปล่าๆ นะครับ ต่อมาถ้าเป็น คลัสเตอร์ หรือพื้นที่ที่เรากำหนดจะเร่งรัดการพัฒนา ก็ได้ BOI +Xเข้าไป สมมุตินะครับ ต่อไปถ้าสมมุตว่าเป็นกิจการหรือเป็นคลัสเตอร์ที่เป็นเรื่องใหม่ที่เราต้องการให้มีเทคโนโลยีสูง เรื่องการศึกษา เรื่องการวิจัย เหล่านี้ก็ต้องหาแรงจูงในให้มากขึ้น อาจเป็น BOI +2X อะไรอย่างนี้นะ ก็คิดของผมแบบนี้ แล้วคราวนี้คนที่ทำงานก็ไปทำมา
ก็อย่าลืมว่าถ้าเราไม่ทำแบบนี้ อะไรก็ไม่ได้ทั้งสิ้น ภาษีก็ไม่ได้อยู่แล้ว วันหน้าก็ไม่เกิดขึ้นอีก นี่คิดแบบผมคิดนี่ ผมก็ไม่ใช่คนเก่งเรื่องเศรษฐกิจ แต่ผมก็ประเมินเอา คิดเอา อ่านเอา แล้วก็ปรึกษาผู้รู้ ถ้าทำได้ก็ทำได้ ก็ต้องเชื่อมั่นกัน ถ้าไม่คิดแบบนี้ ไม่ทำแบบนี้ แล้วปล่อยไปแบบเดิม มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ BOIที่ผ่านมาก็ไม่ได้เคยแก้ไขมาเป็นกี่ปีแล้วไม่รู้ แก้ไปแล้วยังสู่เขาไม่ได้  เขายังไม่มาเลยนะ แล้วก็จะปล่อยให้ไม่มาอย่างนั้นหรือไร แล้วก็ตั้งอะไรที่มาตรฐานสูงๆ ไว้ก็ไม่ได้ แต่เราต้องควบคุมให้ได้ ว่าเขาต้องอยู่ในกรอบที่เรากำหนด นะครับ

เพราะอย่างนั้นก็ฝากพ่อแม่พี่น้องทุกคนให้ช่วยกันดูด้วยไม่ว่าจะเรื่องของผังเมือง ไม่ว่าจะการลงทุนในพื้นที่ ถ้าไม่ทำก็ไม่เกิด รายได้ที่จะเกิดจากธุรกิจต่อเนื่องก็ไม่มีทั้งสิ้น ก็ลำบากยากแค้นปลูกข้าว ปลูกอะไรกันไปแบนี้แล้วก็เป็นหนี้เป็นสินอยู่แบบนี้เหมือนเดิม นั่นแหละคือสิ่งที่ผมเป็นห่วงนะ ถ้าดีขึ้นจริงก็มีงานมากขึ้น คนที่ถูกออกนอกพื้นที่ที่ต้องไปสร้างนี่ โน่น เพิ่มเติม ก็เดี๋ยวรัฐต้องดูแลเป็นพิเศษ เป็นผู้ที่มีสิทธิมีเสียงก่อนในการที่จะทำกิจการอะไรก็แล้วแต่ในพื้นที่เหล่านั้น ได้รายได้ก่อนคนอื่นเขาจะทำยังไงก็ไปคิดทุกมิติมานะ ให้ความเป็นธรรมนะครับ

แต่ผมไม่ชอบตรงที่มีนายทุนหรือมีใครไปเกี่ยวข้องในเรื่องของการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ซื้อที่ดินไว้ดักหน้าบ้าง ไปขึ้นราคาสูงบ้าง อะไรเหล่านี้มันเป็นอย่างนี้มาตลอด ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเอ๋ทำไมคนคิดแต่ประโยชน์กันทั้งนั้นเลย ถ้าคิดแต่ประโยชน์ทุกอย่างเป็นไปไม่ได้ ต้องมีคนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย คนไม่เห็นด้วยคนเสียประโยชน์ก็ต้องต่อต้านแน่นอน ถึงเกิดอะไรไม่ได้ถึงวันนี้ วันนี้หลายคนบอกให้ผมใช้มาตรา44 ทำ ผมก็ไม่อยากใช้ตรงนี้นะ ก็คิดเอาแล้วกัน ว่าท่านจะทำยังไงให้เกิดขึ้นได้ ถ้าเกิดขึ้น เราเกิดสังคมเมืองขึ้นในทุกภูมิภาค คนก็ไม่เข้ามาในเมืองใหญ่นะ ศูนย์การศึกษาต่างๆ ก็ให้ไปลงทุน หรือไปเปิดใหม่ในพื้นที่ในแต่ละภูมิภาค คนก็ไม่ต้องเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ก็เรียนในภูมิภาคของตนเอง มหาวิทยาลัยเหล่านั้นหรือสถานศึกษานั้นก็ผลิตคนให้ตรงความต้องการของพื้นที่ของเขา ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันออก อะไรก็แล้วแต่ เขามีวัสดุอะไร ควรจะมีการประกอบการอะไรตรงนั้น คนก็ใช้จากที่นั่น แรงงานก็ใช้จากชายแดนบ้าง ใช้จากในประเทศบ้าง ดูแลพ่อแม่พี่น้องไป เมืองเขาก็เจริญขึ้น

วันหน้าจะได้ไม่ถ่วงซึ่งกันและกัน วันนี้ภาษีก็เก็บได้ไม่เท่ากัน ท้องถิ่นก็ไม่มีเงิน เพราะรายได้ไม่มียังไง แต่ถ้าทำ ทุกอย่างแข็งแรงขึ้นเป็นภูมิภาค ก็จะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เป็นก้อน ต่างคนต่างไปเจือโน่น เจือนี่ ก็เหลือเฉพาะเอามาทำในเรื่องของการพัฒนาในภาครวมนะ ในพื้นที่ก็มีความสุข ถ้าไม่คิดแบบนี้ไปไม่ได้แน่นอนนะครับ แล้วก็อ้างกันว่าประชาธิปไตยต้องอย่างนี้ อย่างนั้น อะไร ประชาชนเป็นใหญ่ อะไรต่างๆ มันไม่ใช่ทั้งหมดนะ ประเทศอื่นเขาเลิกคิดแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว ถึงเจริญมาถึงวันนี้ไง

เรื่องการตลาด การส่งออก การทำอะไรก็ตามนี่ ถึงแม้ว่าจะเป็นการส่งเสริมปลูกพืชทดแทน อะไรต่างๆ เหล่านี้ ก็ต้องดูในเรืองของ ดีมาน ซัพพลายด้วยนะ เดี๋ยวไปปลูกถั่วเขียว ถั่วเหลือง ปลูกพริก ปลูกอะไร ปรากฏว่าขณะนี้อะไรรายได้ดี ดีกว่าทำนา แต่ถ้าปลูกมากขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วทำไง ไม่มีตลาดอีก ราคาตกอีก ก็กลับมาเล่นงานรัฐบาล อีก หาว่าไปส่งเสริมในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่เป็นรายละเอียด ซึ่งข้าราชการผู้ลงปฏิบัติในพื้นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่ง เป็นหัวหน้าในส่วนของการบูรณาการในระดับจังหวัด หรือกลุ่มจังหวัด ต้องทำให้ผม เหมือนกับที่ผมสั่งวันนี้ ผมสั่งทั้งหมด 10 กว่ากระทรวง 18-19 กระทรวง คนปฏิบัติให้ผมในพื้นที่ก็คือผู้ว่าราชการ

คิกออฟกองทุนหมู่บ้าน

สัปดาห์ที่แล้ว ที่ผ่านมานั้นผมได้ไปเป็นประธานงาน  Kick off  ปฏิบัติการในเรื่องของ  “มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และมาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลทั่วประเทศ” นะครับ ก็ใช้เงินไปมากพอสมควร ที่ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี มีผู้เข้าร่วมงานเป็นคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ประมาณสัก 8,000 คน นะครับ

สำหรับ กองทุนหมู่บ้าน 1 ล้านบาท แล้วก็  กองทุนตำบล 5 ล้านบาท และก็มีเม็ดเงินการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาลอีก 1 ล้านบาท รวมใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น กว่า 100,000 ล้านบาท นะครับ นี่คือเพิ่มเติมจากระยะที่ผ่านมาแล้วด้วย จะเห็นว่าเราใช้งบประมาณไปอย่างนี้ แล้วยังไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลยเพราะว่ายังไม่เกิดสิ่งที่ยั่งยืนตามมา เพราะเริ่มอยู่ไงแต่ถ้าเราเอาก้อนนี้ไปใช้อีก หมดไปอีก จัดการน้ำท่วมบ้าง ฝนแล้งบ้าง อะไรบ้าง ก็จะเป็นไปอยู่แบบนี้ เพราะอย่างนั้นวิธีการของเราคือทำอย่างไรให้เขามีชีวิตอยู่ได้ ประคับประคองตัวเองได้อยู่ ขณะเดียวกันรัฐก็ต้องลงทุน เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจต่างๆ เรื่องเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อจะได้รองรับว่า ต่อไปนี้ พวกนี้ไม่ได้พึ่งอาชีพรายได้จากการเกษตรอย่างเดียวนะ อย่างน้อยก็มีตลาด มีโรงงาน มีกิจการที่เขาสามารถที่จะไปหารายได้เพิ่มเติมขึ้นไปอีก

ไม่งั้นอยู่ไม่ได้หรอกครับ วันหน้าลูกหลานเขาเดือดร้อน จะเอาเงินที่ไหนส่งลูกเรียนหนังสือ ทำนาทำไร่ก็ปีหนึ่งไม่มีกำไร มีแต่เป็นหนี้เขาไปเรื่อยๆ แล้วก็ชำระเขาไม่ได้อีก ก็มีแต่ความทุกข์ตลอดไปนะ วันนี้ถ้าเราจะหลุดพ้นจากกับดักตัวเองตรงนี้ ต้องฟังที่ผมพูด แล้วก็ช่วยรัฐบาลในการที่จะแก้ปัญหาระยะยาวให้ได้กับท่าน หลังจากแก้ปัญหา วันนี้ พรุ่งนี้ พอแล้ว ฝนนี้จบ ฝนหน้าเอาไหม้ เป็นอย่างนี้มาตลอด วันนี้ต้องไปคลี่ทุกอันเลยนะ กฎหมายก็ต้องแก้ พ.ร.บ. ก็ต้องทำ อะไรจะเป็นธรรม อะไรจะเข้มแข็ง อะไรจะเพิ่มขีดความสามารถ แต่ทั้งหมดต้องอยู่บนพื้นฐานของอะไร ความมีเสถียรภาพ ความสงบสุขของบ้านเมือง ประชาชนไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ใครเป็นรัฐบาลต้องทำให้ได้ ไม่งั้นประเทศชาติไปไม่ได้ ที่ผ่านมาท่านก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างนะครับ วันนี้เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ สร้างฐานรากของประเทศให้ได้ ผมเคยบอกไว้แล้วว่า ประชาธิปไตยเราไม่ได้ล้มหมด กำลังจะคอแล็บเฉยๆ เราก็มาเติมฐานรากให้เขาเติมอิฐหินปูนทราย

โดยการสร้างให้ประชาชน ให้เซ็คเตอร์ต่างๆ ระดับทั้งพ่อค้าประชาชน ประชาสังคม แข็งแรง ทั้งร่ายกาย จิตใจ มีจิตสำนึก มีอุดมการณ์ เหล่านี้ก็เป็นไป ตามยุทธศาสตร์พระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววนะครับ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ซึ่งท่านทรงรับสั่งมานานแล้ว เราก็ต้องนำมาใช้

สิ่งใดก็ตามที่เราทำวันนี้นั้น ก็เป็นหลักเกณฑ์ หรือเป็นหลักการของประชาคมโลก ก็พูดตรงกันแล้วคราวนี้ ทุกประเทศในโลกนี้พูดมาว่า รัฐบาลใดก็ตามเมื่อเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ก็จะต้องยึดถือ “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” คือจะต้องทำอะไรให้ถูกต้อง ตรงกับความต้องการแล้วก็ในการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้นก็ต้องทำให้มากที่สุดนะครับ อันนี้ก็ต้องเข้าใจนะ นั่นคือเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายอำนาจอยู่แล้วใช่ไหม การมีส่วนร่วมของประชาชนมีหลายอย่างด้วยกัน ถ้าตามหลักการเดิมๆ ก็มีเป็นขั้นตอน ขั้นตอนไหน เช่นประชาพิจารณ์ EIA HEIA อะไรก็แล้วแต่ นั่นคือทำอยู่แล้ว แต่วันนี้เราก็ต้องไปเพิ่ม ระยะต่อไปผมจะเพิ่มในเรื่องของการเปิดเวที รับฟังความคิดเห็น จากภาคประชาชนด้วยนะครับ แต่ไม่ใช่ไปฟังมา แล้วก็เอามาขัดแย้งกับรัฐ อย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ มันไปไม่ได้ทั้งสิ้น หลายคน หลายสื่อก็พยายามทำนะ ผมรู้ว่าหวังดี  แต่วิธีการทำให้สิ่งที่กำลังสับสนอยู่วันนี้ ยิ่งผิดเพี้ยนไปมากกว่าเดิม และผมไม่เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาได้เลย แม้แต่สิ่งที่ท่านต้องการก็เกิดไม่ได้ เพราะขัดแย้งกันตั้งแต่ต้นซะแล้ว ต้องเห็นใจข้าราชการ ต้องยึดถือกฎระเบียบ กฎหมายของเขาด้วย ขณะเดียวกันก็พร้อมจะรับฟัง วันนี้นะ ผมให้ทุกคนฟังประชาชนเป็นหลัก แต่ประชาชนก็ต้องฟังข้าราชการ ฟังผมบ้างถ้าต่างคนต่างไม่ฟังเอาแต่ใจกัน ไม่มีไปได้นะ ก็กลับมาทีเดิม ก็เป็นประชาธิปไตยที่เอนๆ จะล้มไม่ล้มแหล่อยู่เหมือนเดิมนะ

แก้หนี้เกษตรกร-หนี้นอกระบบ

เพราะฉะนั้นในเรื่องของการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร ที่นำที่ดินทำกินไปเป็นหลักค้ำประกันในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน วันนี้ก็กู้กันเต็มเม็ดเต็มหน่วยไปแล้ว กู้เพิ่มไม่ได้ จะถูกยึดอีกแล้ว ก็เลยต้องไปกู้เงินจากนายทุนนอกระบบ เข้ามา ก็อาจจะถูกเอารัดเอาเปรียบ กู้เท่านี้ บวกดอกเบี้ยเท่านี้ กลายเป็นไม่รู้กี่เท่า กี่เท่า ของเงินจริงๆ มันเสียหายนะ เอาเปรียบกัน อันนี้ก็ต้องโทษคนด้วยนะ ชาวนานี่เขาเป็นคนซื่อนะ หรือชาวเกษตรกรเป็นคนซื่อ เขาไม่ค่อยโกงใครหรอก โกงไม่เป็น คนรวยมักจะโกงคนจนซะมาก คนจนก็เลยจนไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นถ้าเขาจะต้องเป็นหนี้มากๆ ขึ้นต่อไปเขาก็ต้องถูกยึดที่ดินทำกินหมด น่ะ

ผมก็เลยสั่งการไปวา ไปสำรวจข้อมูลดูซิว่าหนี้สินเกษตรกร นี่ มีเกษตรกรได้นำที่ดินไปค้ำประกันการกู้เงินไว้กับภาคเอกชนหรือนายทุนเงินกู้ เท่าไร ที่เรียกว่าทำเป็นสัญญาขายฝาก เรียกว่า “หนี้นอกระบบ”รัฐกำลังพยายามจะให้ความช่วยเหลือนะครับ ตามมาตรการที่ได้วางเอาไว้ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ (1) กลุ่มที่มีคำพิพากษาให้บังคับคดีแล้ว จำนวน 2,292 ราย มูลหนี้ กว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งต้องช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วน เพราะอาจถูกยึดที่ดินทำกิน หรือถูกนำไปขายทอดตลาดได้ โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ประสานงานกับกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ในการส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. เพื่อโอนหนี้ดังกล่าวเข้าสู่สถาบันการเงิน เพื่อเข้าสู่กระบวนการชำระหนี้ที่เหมาะสมและเป็นระบบต่อไป ไม่ใช่ไม่ใช้หนี้ แต่หมายความว่าก็ต้องประนอมหนี้บ้าง อะไรบ้าง ถ้าเป็นนอกระบบก็ต้องเลิก คนที่เรียกหนี้เยอะๆ นี่ ถ้าคุ้มค่าแล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องเรียกแล้ว ก็ต้องใช้หนี้กัน เพียงแต่ว่า ทำยังไงจะไม่มีหนี้อีกต่อไป
ทุกครั้งพอแก้ปัญหาไปแล้ว ก็กลับมาอีกเหมือนเดิม เพราะว่าไม่ได้สร้างความเข้มแข็งให้เขาไง เขาก็มีรายได้เท่าเดิม เขาเคยเป็นหนี้ เพราะรายได้เขามีเท่านี้ รายได้วันนี้ แย่กว่าเดิม  เพราะงั้นเป็นหนี้ต้องมากกว่าเดิม คิดแบบนี้ แล้วจะทำยังไง ก็ต้องไปหารายได้เสริมให้เขา รายได้เสริมก็ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไปแจก ต้องไปสร้างความเข้มแข็ง ไปทำอาชีพโน้นนี้ เสริมมา เกิดธุรกิจชุมชนในพื้นที่ โซเชียล บิซิเนส ขึ้นมา ไปเชื่อมต่อกับ เอส เอ็ม อี แล้วไปเกิดโครงข่ายในเรื่องอขงการค้าขาย ในภูมิภาคเกิดขึ้นมามีตลาดกลาง ตลาดชุมชน เอส เอ็ม อี ตลาดชายแดน ให้เชื่อมโยงกันแบบนี้ ลดปัญหาในเรื่องของพ่อค้าคนกลาง เขาก็จะมีเงินเหลือมากขึ้นนะ เมื่อมีเงินเหลือมากขึ้น ก็ไม่เป็นหนี้ใช่ไหม แล้วค่อยเดินหน้าต่อไป

วันนี้ผมคิดว่าพี่น้องเกษตรกรทั้งหมด เราได้อยู่ในขั้นตอนที่ว่า ในหลวงทรงรับสั่งไว้แล้วว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก็คือเราต้องอยู่ด้วยความมีเหตุมีผล ในการใช้เงิน มีความพอประมาณ มีเท่าไรใช้เท่านั้น ของเก่าไม่ว่ากัน เดี๋ยวค่อยแก้กันไป  แต่วันนี้ต้องเดินอย่างนี้ แล้วท่านก็ต้องสร้างภูมิคุ้มกัน ท่านจะทำยังไง ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่าย ที่ไม่จำเป็น ลูกหลานซื้อของแพงๆ ก็ต้องสงสารพ่อแม่บ้างนะครับ ถ้าเราปลดหนี้ไม่ได้ เพราะไม่มีรายได้เพิ่ม กลับมาที่เดิมเหมือนเดิม วงจรแบบนี้จนตานนะ ชั่วชีวิต ปู้ ย่า ตา ยาย ก็จนแบบเดียวกันมาตลอด ต้องพัฒนานะครับ เพราะงั้นอย่าไปเชื่อฟังคนที่มาติติง โน่น ติติงนี่ แสดงว่าเขาไม่อยากให้ท่านเป็นแบบที่ผมคิด แต่ผมคิดว่าท่านต้องดีขึ้น ถ้าอดทนสักนิดหนึ่ง    

สำหรับกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่ยังไม่อยู่ในชั้นบังคับคดี จำนวน 46,747 ราย มูลหนี้ กว่า 6,400 ล้านบาท ซึ่งมีความเร่งด่วนน้อยกว่าอันแรก แต่รัฐบาลก็ได้ให้ความช่วยเหลือคู่ขนานกันไป วันนี้กำลังให้คณะทำงานคัดกรองข้อมูลและไกล่เกลี่ย ระดับอำเภอ ส่งเรื่องให้ ธ.ก.ส. และคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนส่วนอำเภอ ที่เรียกว่า อชก.อำเภอ สำหรับเข้าไปดำเนินการไกล่เกลี่ยและปลดเปลื้องหนี้สิน  ก็ต้องเห็นอกเห็นใจกันนะครับโดยเฉพาะเจ้าหนี้นอกระบบ ทั้งนี้ สรุปผลการดำเนินการที่ผ่านมา สามารถช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ ให้สินเกษตรกรได้สำเร็จแล้ว เกือบ 3,000 ราย คิดเป็น  มูลหนี้  กว่า 2,300 ล้านบาท

เห็นไหมครับ ก็ทำทุกอย่างมา คู่ขนานมาตลอดเพียงแต่ว่า บางคนไม่สนใจ เพราะตัวเองไม่เกี่ยว ไม่เกี่ยวเรื่องนี้ ไม่สนใจ  แต่ท่านต้องมองภาพรวมว่ารัฐบาลนี้เข้ามาทำอะไรให้ท่าน คำว่าท่านคือ ท่าน ท่าน ทั้งหมด นะไม่ใช่ท่านนี้ ท่านโน้น ท่านเกษตรกร นี่ทุกท่านเลย ต้องดูหมด พื้นฐานต้นทุนก็มีแค่นี้ เหมือนต้นทุนน้ำ น้อยทุกคนจะเอาน้ำไปปลูกพืช ต้นทุนมีแค่นี้ รัฐบาลก็มีต้นทุนการเงิน มีเท่านี้ ปัญหาภาระเก่าก็เยอะแยะ ก็ต้องสร้างความเข้มแข็ง หาเงินให้มากขึ้น แก้ปัญหาได้เร็วขึ้น ก็ใช้ระยะเวลาที่ผมอยู่นี่ ทำให้ได้มากที่สุดนะครับ  อย่างไรก็ตาม หากยังมีเกษตรกรรายใด ที่ตกหล่นไปจากการสำรวจมีความเดือดร้อนและประสงค์จะได้รับความช่วยเหลือ ตามนโยบายรัฐบาลเพิ่มเติม ตามที่ผมกล่าวไปแล้วให้มาติดต่อได้ที่ ที่ว่าการอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ทุกอำเภอนะครับ เจ้าหน้าที่ข้าราชการก็อย่าหงุดหงิด กับเขานะครับ คนเป็นหนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี เจ้าหนี้จะอารมณ์ดี จะอารมณ์ไม่ดีตอนเขาไม่ใช้หนี้เท่านั้นเองนะ เพราะงั้นทุกคนตอนนี้ต้องยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน ช่วยประชาชนเหมือนที่ผมคิดนี่ ถ้าผมคิด ผมสั่ง รัฐมนตรีทำ รองนายกขับเคลื่อน แล้วประชาชนไม่ร่วมมือ มันไม่มีทางไปได้ นักการเมืองที่จะต้องเข้ามาเป็นรัฐบาลในโอกาสต่อไป ไม่ร่วมมือ แล้ววันหน้าท่านจะอยู่ยังไง ปัญหาเหล่านี้ก็ตกไปที่ท่านเหมือนเดิม  ที่ท่านเคยผ่านมาแล้ว แล้วท่านบอก ท่านแก้ไม่ได้ วันนี้ผมแก้ให้ท่านแล้ว นี่ ผมเตรียมกวาดบ้านให้ท่านเลย ปูเสื่อให้เขาเรียบร้อย แล้วท่านยังมาขัดขวางผมอยู่อีกนี่ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อไปในอนาคต ก็ฝากประชาชนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องคิดด้วยแล้วกัน

ในเรื่องของการเดินทางไปร่วมการประชุมประชุมสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 นี่นะครับ ของUN น่ะ ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถือเป็นปีที่พิเศษ เพราะ UN มีวาระครบ 70 ปี   UN นี่ต้องรู้ว่าท่านก็มีหน้าที่ในการดูแลประชาคมโลก ในหลายๆเรื่องด้วยกัน ส่วนใหญ่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองนะ การเมืองเป็นเรื่องส่วนตัว พูดคุยกันได้บ้าง แต่วาระเขาจะไม่พูดเรื่องนั้น เขาจะพูดเรื่องความก้าวหน้าของแต่ละประเทศในการดูแลประชาชนนะครับ ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา ว่ามีการพัฒนาอย่างไรบ้าง และในอีก 15 ปีต่อไป จะมีการทำงานและความร่วมมือกันในระหว่างประเทศในลักษณะใด เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก บนโลกใบนี้ ตามเป้าหมายของ UN ก็คือการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDGs) ทั้ง 8 ด้าน ได้แก่ (1) การขจัดความยากจนและความหิวโหย (2) การส่งเสริมให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานถึงระดับประถมศึกษา (3)การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและบทบาทสตรี (4) การลดอัตราการตายของเด็ก (5) การพัฒนาสุขภาพสตรีมีครรภ์ (6)การต่อสู้กับโรคเอดส์ มาลาเรีย และโรคสำคัญอื่นๆ (7) การศึกษาจัดการ และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนนะครับ (8) การส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาในประชาคมโลก
ผมก็เห็นว่า จะเป็นโอกาสดี ได้รับเกียรติจาก UN เชิญมาในฐานะผมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกนะครับ ผมก็ยินดีที่จะไปนะครับ และผมจะได้แสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ ในหัวข้อต่างๆ เหล่านั้น ว่าเราได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง แนวความคิดของเราที่มีต่อประเทศเพื่อนบ้านในประชาคมของเรา อาเซี่ยน ว่ายังไง ประชาคมโลกว่ายังไง โดยทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็เอาแนวทางที่ UN ได้ร่างไว้ทั้ง 8 เรื่องมาประยุกต์ ประมวลกัน นี่ก็กำลังเตรียมการอยู่นะครับ แล้วเราก็จะบอกเรื่องความสำเร็จของประเทศไทย ในการที่เราอาจจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงแรกๆ นะครับ การก้าวกระโดด ในบางเรื่อง เมื่อครั้งที่แล้ว ที่ผ่านมานานพอสมควร  เรื่องการยกระดับ จากรายได้น้อย เป็นประเทศรายได้ปานกลาง เราก็พยายามไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง แต่ถ้าจะไปสูง ต้องไปอย่างที่ผมว่า ถ้าไปแบบเดิมนี่นะ ให้เงิน เพิ่มเติม เพิ่มส่วนต่าง ประกัน จำนำ ไปไม่ได้หรอ อยู่กลาง ก็จะถอยหลังไปต่ำอีกเหมือนเดิม เพราะแย่ไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจ ก็ไม่ดี เงินก็ไม่พอ เพราะอย่างนั้นเราต้องน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นี่ ผมก็จะนำไปกล่าวด้วย ซึ่งผมกล่าวทุกเวทีมาตลอดนะ หลายประเทศเขาให้ความสนใจนะครับ เพื่อเป็นหลักการใช้ในการบริหารประเทศ ที่เป็นแบบเรา

ต้องส่งเสริมให้ประชาชนนำไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน เพราะการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น ต้องเริ่มต้นที่ทรัพยากรมนุษย์ มนุษย์ต้องมีการพัฒนา แล้วมนุษย์เหล่านี้ถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของแต่ละประเทศ รัฐบาลก็ต้องถือว่าประชาชน หรือมนุษย์นี่เป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะผู้มีรายได้ที่ต่ำกว่า ในหลายเซ็คเตอร์ ต้องดูทั้งหมด ไม่ใช่ดูแลส่วนใดส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมานั้น การประชุมหลายครั้งที่ผมกล่าวคำเหล่านี้ หรือแม้แต่การประชุมในประเทศหมู่เกาะอะไรต่างๆ ก็ตาม ก็ได้เอาโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ไปแสดงให้ฟัง เขาชื่นชมหมด แม้กระทั่งการส่งทหารไปประเทศ ในเรื่อง Peace keeping ที่ผ่านมาหลายประเทศ เขาปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงกบ เลี้ยงอะไร มีอาหารกินทุกวันแล้ว เขาชื่นชมพระมหากษัตริย์ของไทยมาโดยตลอด ขอบคุณที่ทหารไทยไป ขอบคุณที่ไปสอนเขา ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ทำให้เขาสามารถหลุดพ้นจากความยากจน ความหิวโหยได้ ในขั้นตอนแรก เราพ้นตรงนั้นมาแล้ว เราก็ต้องรีบพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก เพื่อเราจะได้เป็นประเทศที่เป็นผู้ให้ เหมือนประเทศอื่นที่เขาร่ำรวย ถ้าเรายังเป็นประเทศอยู่แบบนี้ เป็นผู้ให้เขาไม่ได้ มีแต่จะต้องร้องขอเขาตลอดเวลา ขอโน่น ขอนี่ เพราะเราพึ่งตัวเองไมได้ไง ในประเทศก็ยังดูแลคนไม่ได้ แล้วเราจะไปพัฒนาประเทศ ไปสร้างอนาคตได้อย่างไร เพราะงั้นก็ขอให้ทุกคนนะ ให้ทำความเข้าใจในเรืองนี้ด้วยนะครับ อย่าเอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องกับเรื่องประเทศชาตินะ จะทำลายผม จะอะไรก็แล้วแต่ จะต่อต้านผมยังไงก็ตาม แต่ปะเทศนะ ผมไปในนามประเทศของท่าน เพราะยังไงก็ตาม ประเทศนี้ต้องเดินหน้านะ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง