วันนี้ (22 เม.ย.2558) ที่ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลังมีการแถลงผลงานในรอบ 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2557 นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลายขึ้นมีสัญญาณของการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยอัตราการขยายตัวในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 1.4. ต่อปี ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 970,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 จากปีก่อน โดยภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากฐานการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นรายได้สำคัญของรัฐบาลสามารถขยายตัวได้ดีเพิ่มขึ้น
ขณะที่มาตรการ 6 เดือนแรกของกระทรวงการคลัง ได้แก่ การเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินค้างชำระโครงการรับจำนำข้าวเปลือก การทบทวนและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบกลาง การจัดสรรงบไทยเข้มแข็งที่ยังเหลืออยู่ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ส่วนมาตรการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันระยะยาว กระทรวงการคลังยังสนับสนุนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน เช่น กองทุนร่วมลงทุนในกิจการเอสเอ็มอีเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นกองทุนเปิดระหว่างภาครัฐและเอกชนขนาดวงเงิน 10,000-25,000 ล้านบาท มีสัดส่วนจากการร่วมลงทุนภาครัฐร้อยละ 10-15 ส่วนการให้ใบอนุญาตสินเชื่อประเภทนาโนไฟแนนซ์เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบในมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจขอยื่นจดทะเบียนแล้ว 15 ราย คาดว่าจะเริ่มดำเนินการปล่อยสินเชื่อได้ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าพอใจกับผลงานที่ผ่านมาโดยจะเร่งกำกับดูแลสถาบันการเงิน การลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่ต้องดูแลให้มีศักยภาพมีกำไรรวมถึงการลงทุน ส่วนวาระการกำกับดูแลการคลัง โดยเฉพาะการบริหารองค์กรส่วนท้องถิ่นที่จะเน้นให้เกิดความโปร่งใสในการทำงาน นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรที่ดินโดยเฉพาะที่ดินราชพัสดุ รวมถึงการปฏิรูประบบภาษีอย่างต่อเนื่อง ส่วนแผนงบประมาณปี 2559 ที่จะมีความชัดเจนในอีก 2 เดือนข้างหน้ายังเป็นนโยบายการคลังแบบขาดดุล
สำหรับกรณีที่สหภาพยุโรป (อียู) ตัดสิทธิ์ประมง นายสมหมายยอมรับว่าอียูถือเป็นตลาดใหญ่ แต่คิดว่าการตัดสิทธิไม่ใช่การตัดสิทธิทั้งหมด เนื่องจากตลาดของไทยถือเป็นตลาดที่ดี แต่ไทยจำเป็นจะต้องปรับตามกติกาโลก ซึ่งกรณีนี้อาจทำให้กระทบต่อการส่งออก นายสมหมายกล่าวต่อว่าต้องการเห็นอัตราการเติบโตการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อยู่ที่ 3 โดยสาเหตุหลักที่ทำให้จีดีพีไม่ขยายตัวเท่าที่ควรเกิดจากภาคการส่งออกที่หดตัวลง
ส่วนเรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาลที่รัฐบาลต้องการให้ขายในราคา 80 บาท ซึ่งหลายฝ่ายระบุว่ากระทรวงการคลังสอบตกในเรื่องนี้นั้น นายสมหมายกล่าวยอมรับว่าถือว่าสอบตกจริง แต่ในอีก 6 เดือนหลังจากนี้จะเห็นผลชัดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีมีส่วนร่วมในการผลักดันเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง