สนง.สลากฯ สั่งตรวจสอบสลากฯไม่พอขายที่วังสะพุง-ขู่หากพบนอมินีจะตัดสิทธิ์ทันที

วันนี้ (5 พ.ย.2558) นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า วันที่ 9 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสลากฯ เพื่อพิจารณาและประเมินสถานการณ์จากปัญหาความเดือดร้อนของผู้ค้าสลากฯ รายย่อยที่ยังไม่สามารถหาซื้อสลากฯ ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานสลากฯ กำหนด ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าสลากฯ ที่ขายส่วนใหญ่หมดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ อ.วังสะพุง จ.เลย ที่สะท้อนว่ามีความต้องการเกิน 100 ล้านใบ 

 

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากฯ จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากความต้องการซื้อสลากฯ ที่เพิ่มขึ้นจริง หรือเกิดจากการกักตุนเพื่อฉวยโอกาสขึ้นราคาขายในช่วงวันออกรางวัล ซึ่งหากพบการกระทำผิดจะสั่งตัดสิทธิ์การจำหน่ายสลากฯ และดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที พร้อมยืนยันสำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ  และจะพยายามหาทางช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับสลาก  แต่ขณะนี้มีขั้นตอนที่จะต้องพิจารณา

 

ทั้งนี้ ในช่วงกลางเดือน ม.ค.2559 สลากฯ จะมีเพิ่มขึ้นจาก 26 ล้านฉบับ เป็น 44  ล้านฉบับจากการยกเลิกโควต้าสลากฯ ขององค์กรที่ไม่ใช่องค์การกุศลและผู้พิการ ซึ่งจะมีกาตรวจสอบอีกครั้งว่าเพียงพอกับความต้องการที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก่อนจะพิจารณาว่าต้องสั่งพิมพ์เพิ่มหรือไม่ 

 

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ สำนักงานสลากฯ ได้กำหนดลดเพดานการสั่งซื้อลงเหลือรายละ 15 ฉบับเป็นการชั่วคราว เพื่อให้สลากฯ กระจายถึงผู้ค้ารายย่อยได้มากขึ้น และอาจมีการทบทวนปรับลดเพดานลงอีก รวมทั้งจะมีความเข้มงวด เช่น การตรวจสอบทรัพย์สินหรือการเสียภาษีของบุคคล เพื่อป้องกันการเกิดนอมินีรับฝากซื้อเพื่อขายต่อและโก่งราคา ซึ่งช่องทางการสั่งซื้อสลากฯ ที่สะดวกสุดขณะนี้ คือการสั่งซื้อผ่านธนาคารของรัฐในสาขาย่อย และสั่งจองผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้ค้ารายย่อยอาจต้องขอให้ลูกหลานที่ทำเป็นช่วยจองผ่านระบบให้เพื่อความรวดเร็ว