ผู้ปกครองละเลยสวมหมวกนิรภัยในเด็ก-ศีรษะบาดเจ็บรุนแรงวันละ 14 คน

จักรยานยนต์เป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุทางถนนและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือซ้อนรถของผู้ปกครอง โดยไม่สวมหมวกนิรภัย

วันนี้ (18 พ.ย.2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนอำนวยศิษย์ศึกษา เขตธนบุรี เป็นโรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับการสวมหมวกนิรภัยในเด็ก หลังจากพบว่า ประเทศไทยมีเด็กสวมหมวกนิรภัยเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น ทางโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จึงร่วมมือกันรณรงค์และให้ความรู้กับผู้ปกครอง พร้อมจัดหาที่เก็บหมวกนิรภัยภายในห้องเรียน ส่งผลให้นักเรียนส่วนใหญ่ที่ผู้ปกครองมีรถจักรยานยนต์ สวมหมวกนิรภัยขณะซ้อนท้ายมาโรงเรียน

นางเบญจวรรณ ปัญญาประทีป อาจารย์ร.ร.อำนวยศิษย์ศึกษา กล่าวว่า ภายในห้องเรียนจะจัดชั้นวางหมวกนิรภัยไว้สำหรับเด็ก และจะมีการตรวจเช็คทุกวันว่ามีใครไม่นำหมวกมาหรือไม่

ด.ญ.ศุภสุดา บุญรัตพันธุ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ร.ร.อำนวยศิษย์ศึกษา กล่าวว่า ครอบครัวของเธอใช้รถจักรยานยนต์เพื่อมารับและส่งเธอมาโรงเรียนทุกวัน และครอบครัวก็ให้สวมหมวกทุกครั้ง
“ทุกเช้าคุณปู่จะขับรถจักรยานยนต์มาส่งที่โรงเรียน และจะสวมหมวกทุกครั้ง เพราะสวมแล้วรู้สึกปลอดภัย”

อลิสัน เซลโควิทซ์ ผอ.โครงการช่วยเหลือเด็กประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่สำรวจการสวมหมวกนิรภัยในเด็ก พบว่าหลังเลิกเรียนยังมีผู้ปกครองและเด็กๆหลายคนไม่สวมหมวกนิรภัย ตามที่โรงเรียนตั้งเป้าหมายไว้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลตลาดพลูและองค์การช่วยเหลือเด็ก ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติม พร้อมมอบหมวกนิรภัยให้เด็กใส่กลับบ้าน

“การที่ประเทศไทยติดอันดับ 2 ของโลกเรื่องอุบัติเหตุ เนื่องจากการผลักดันกฎหมายยังมีไม่มากนัก ขณะที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักมองว่า การที่ไม่สวมหมวกนิรภัยในเด็ก ถ้าอยู่ใกล้ไม่จำเป็น ทั้งที่จริงควรสวมทุกครั้งเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์” อลิสัน กล่าว

ข้อมูลของสำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี มีการบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ โดยที่ไม่สวมหมวกนิรภัยถึงกว่าปีละ 5,000คน หรือวันละ 14 คน สาเหตุเกิดจากขับขี่และนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย