คาดตุรกีกระทบหนักหากถูกรัสเซียคว่ำบาตร สั่งคุมนำเข้าอาหาร-ห้ามนักท่องเที่ยวไปตุรกี

ต่างประเทศ
27 พ.ย. 58
04:24
141
Logo Thai PBS
คาดตุรกีกระทบหนักหากถูกรัสเซียคว่ำบาตร สั่งคุมนำเข้าอาหาร-ห้ามนักท่องเที่ยวไปตุรกี

รัสเซียเตรียมดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในวงกว้างต่อตุรกีเพื่อตอบโต้ที่เครื่องบินขับไล่ถูกยิงตก พร้อมทั้่งประกาศระงับความร่วมมือทางทหารทั้งหมดกับตุรกี ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น

วันนี้ (27 พ.ย.) นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย สั่งการให้รัฐบาลร่างมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจภายใน 2 วันเพื่อใช้ตอบโต้ตุรกีกรณีที่เครื่องบินขับไล่ของรัสเซียถูกยิงตก ซึ่งถือเป็นการกระทำที่คุกคามรัสเซีย โดยมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับแผนร่วมลงทุนระหว่างทั้ง 2 ประเทศ นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซีย หลังจากก่อนหน้านี้รัสเซียได้เริ่มดำเนินมาตรการตอบโต้ด้วยการควบคุมการนำเข้าอาหารจากตุรกีอย่างเข้มงวด โดยให้เหตุผลว่าอาหารร้อยละ 15 ที่นำเข้าจากตุรกีไม่ได้มาตรฐานส่งผลให้รถบรรทุกสินค้าของตุรกีติดค้างอยู่ที่พรมแดน นอกจากนี้รัสเซียยังจำกัดและควบคุมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเตือนให้พลเมืองหลีกเลี่ยงการเดินทางไปตุรกีและขอให้ชาวรัสเซียที่อยู่ในตุรกีเดินทางกลับประเทศเพราะอาจได้รับอันตรายจากการคุกคามของกลุ่มก่อการร้าย

นักวิเคราะห์มองว่ามาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อทั้งรัสเซียและตุรกี เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญต่อกัน โดยรัสเซียถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดอันดับ 2 ของตุรกี ขณะที่ตุรกีเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังประกาศระงับความร่วมมือทางทหารทั้งหมดกับตุรกีและจะปิดช่องทางการสื่อสารทั้งหมด รวมทั้งการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรียผ่านสายด่วนที่จะช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุทางอากาศระหว่างการโจมตี ขณะที่มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียได้เคลื่อนย้ายระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เข้าไปติดตั้งที่ฐานทัพอากาศในจังหวัดลาตาเกีย (Latakia) ของซีเรียแล้ว

ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูติน ผู้นำรัสเซียได้พบหารือกับประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศสในกรุงมอสโก และประกาศร่วมกันว่า ถึงเวลาที่ชาติมหาอำนาจจะต้องผนึกกำลังต่อสู้กับกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย โดยนายออลลองด์อยู่ระหว่างการดำเนินความพยายามทางการทูตเพื่อหาแนวร่วมในการทำสงครามกับกลุ่มไอเอสที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีกรุงปารีส

การพบหารือระหว่างนายปูตินกับนายออลลองด์มีขึ้นในขณะที่มีรายงานว่ารัฐบาลเยอรมนีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล ประกาศส่งเครื่องบินสอดแนม รวมทั้งเครื่องบินบรรทุกน้ำมันและเรือรบเข้าร่วมภารกิจของฝรั่งเศสในการทำสงครามกับกลุ่มไอเอส


ข่าวที่เกี่ยวข้อง