ยูนิเซฟเผยวัยรุ่นติดเชื้อ HIV เสียชีวิตเพิ่ม 3 เท่า-สธ.ตั้งเป้าลดผู้ติดเชื้อ
วันนี้ (1 ธ.ค.2558) นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากรายงานของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) พบว่าในปี 2557 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลกสะสม 36,900,000 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,000,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 1,200,000 คน ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อฯและผู้ป่วยเอดส์สะสม ประมาณ 1,200,000 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 77,000 คน ยังมีชีวิตอยู่ 42,000 คน ส่วนในปี 2558 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 7,324 คน
อธิบดีกรมควบคุมโรค ยังระบุอีกว่า สำหรับเป้าหมายการดำเนินการเพื่อยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 นั้น ตั้งเป้าลดการติดเชื้อในเด็กแรกคลอด หรือมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ นอกจากนี้ยังต้องให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตัวโรค เพื่อลดการตีตรา และสร้างทัศนคติเชิงบวก เสริมสร้างความเข้มแข็งระบบบริการสุขภาพและระบบชุมชน
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญขอให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อเอชไอวี มารับบริการตรวจหาเชื้อได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง เพื่อให้รู้สถานะการติดเชื้อ ซึ่งหากติดเชื้อเอชไอวีจริงจะได้เข้ารับการรักษาทันที และวางแผนดูแลสุขภาพได้รวดเร็ว
ด้านกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเชื้อเอดส์ว่า วัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 10-19 ปี ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อเอชไอวีในรอบ 15 ปี มีเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งวัยรุ่นในช่วงวัยดังกล่าวติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่ยังเป็นทารก โดยบางส่วนไม่รู้ว่าตัวเองมีเชื้อเอชไอวีอยู่ในร่างกาย ทั้งนี้การติดเชื้อดังกล่าวเป็นผลมาจากเมื่อ 10-15 ปีก่อน หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวีไม่ได้รับยาต้านไวรัสที่ป้องกันไม่ให้เชื้อติดต่อไปยังทารกในครรภ์