คกก.กลางจัดเลือกตั้งนายกฯบอลให้ตัวแทน 30 เสียงลีกดิวิชัน 2 เลือกตั้งใหม่

กีฬา
1 ธ.ค. 58
05:19
103
Logo Thai PBS
คกก.กลางจัดเลือกตั้งนายกฯบอลให้ตัวแทน 30 เสียงลีกดิวิชัน 2 เลือกตั้งใหม่

คณะกรรมการกลางจัดเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลมีมติให้กรณี 30 เสียงดิวิชั่น 2 ทำการเลือกใหม่ให้สอดคล้องกับข้อบังคับของสมาคมฟุตบอลปี 2558

วานนี้ (30 พ.ย.2558) พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ เป็นประธานคณะกรรมการกลางชุดที่แต่งตั้งโดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เพื่อประชุมหารือถึงความคืบหน้าเรื่องระเบียบการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ภายหลังการประชุม พล.ร.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า คณะกรรมการมีมติให้ประกาศรับสมัครรับเลือกตั้ง โดยจะกำหนดให้มีการประชุมใหญ่สามัญพิเศษ วันที่ 11 ก.พ. ปี 2559 ซึ่งเป็นวันก่อนกำหนดจากฟีฟ่า 4 วัน โดยจะติดประกาศรับสมัครไว้ที่บอร์ดของ กกท. 1 แห่ง และอีก 1 แห่งจะติดที่หน้าที่ทำการสมาคมฟุตบอล

นอกจากนี้จะทำหนังสือแจ้งไปยังสมาคมเพื่อขอให้สมาคมทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังสโมสรสมาชิกทั้งหมดรับทราบ การเปิดรับสมัครนายกสมาคมจะเริ่มในช่วงเดือน ธ.ค. ไปจนถึง 11 ม.ค.ปี 2559 และจะตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร 5 วัน โดยการเปิดรับยังไม่ได้กำหนด ผู้สมัครสามารถส่งเอกสารการสมัครได้ที่สำนักงานที่ทำการสมาคมฟุตบอล ในส่วนของการสมัครจะให้ผู้สมัครเดินทางมาสมัครด้วยตนเอง ซึ่งคณะกรรมการกลางจะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด

ขณะที่ กรณีเรื่องเสียงทั้ง 72 เสียงนั้น ประกอบไปด้วย เสียงจากไทยพรีเมียร์ลีกจำนวน 18 เสียง และถ้วย ข, ค, ง จำนวน 6 เสียง นั้น ยังยึดตามระบบเดิม ขณะที่ดิวิชัน 1 จากเดิมนั้นจะใช้ทีมอันดับ 1-18 โดยยึดผลงานจนถึงเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่คณะกรรมการเห็นว่าช่วงเวลาดังกล่าวไม่จำเป็นอีกต่อไป จึงเห็นชอบให้คัดเอาอันดับ 1-18 หลังจากจบฤดูกาล 2015-2016 แทน ทั้งนี้คณะกรรมการเองจะต้องทำหนังสือไปถาม ฟีฟ่าและ กกท. อีกครั้งว่าทำแบบนี้ได้หรือไม่ ซึ่งจะเร่งรัดให้ได้คำตอบภายในสัปดาห์นี้

กรณี 30 เสียงในดิวิชั่น 2 เดิมที ใช้ข้อบังคับสมาคมปี 2556 ซึ่งปัจจุบัน ได้ข้อบังคับฉบับปี 2558 แทน ดังนั้นคณะกรรมการจึงมีมติให้ทำการเลือก 30 เสียงใหม่ตามข้อบังคับ สมาคมปี 2558 ซึ่งจำต้องรีบทำให้เสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้

ส่วนกรณีที่ นายพินิจ สะสินิน เลขานุการคณะกรรมการกลาง จะลงสมัครนายกสมาคมฟุตบอลด้วยนั้น พล.ร.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ไม่ขัดต่อระเบียบแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ได้ถามไปยังฟีฟ่าถึงกรณีนี้ว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งฟีฟ่าได้ตอบกลับมาว่าได้ แต่จะต้องลาออกก่อนการเปิดรับสมัคร 30 วัน ซึ่งนายพินิจทำตามระเบียบทุกประการ


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง