สภาอังกฤษอนุมัติแผนโจมตีไอเอสในซีเรีย ผู้นำตุรกีแก้ต่างถูกกล่าวหาค้าน้ำมันกับไอเอส

วันนี้ (3 ธ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษมีมติหลังผ่านการอภิปรายยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ด้วยคะแนน 397 ต่อ 223 เสียง สนับสนุนให้รัฐบาลอังกฤษส่งเครื่องบินรบเข้าปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรียได้ ในจำนวนนี้มี ส.ส.จากพรรคเลเบอร์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านลงมติสนับสนุนรัฐบาล จำนวน 66 เสียง โดยภายหลังจากทราบผลการลงมติ เครื่องบินรบทอร์นาโดจำนวน 4 ลำ ของอังกฤษ ที่ประจำการอยู่ในฐานทัพอากาศอะโครทีริ ของไซปรัส ได้ขึ้นบินออกจากฐานเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตร ในการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายกลุ่มไอเอสในซีเรียทันที

 

ด้านนายเรเจพ ไทยิบ เออร์ดวน ประธานาธิบดีตุรกี กล่าวระหว่างการเยือนกาตาร์ว่า ตุรกียังคงต้องการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับรัสเซียผ่านกระบวนการทางการทูต หลังจากเหตุการณ์เครื่องบินรบตุรกียิงเครื่องบินรัสเซียตกใกล้พรมแดนซีเรียเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผู้นำตุรกียังได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซีย ที่ระบุว่า ครอบครัวของเขาได้รับผลประโยชน์โดยตรง จากการค้าน้ำมันกับกลุ่มไอเอส ซึ่งถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสีตุรกี

 

ขณะที่อนาโตลีย์ แอนโทนอฟ รมช.กลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียมีหลักฐานชัดเจนว่าประธานาธิบดีตุรกีและครอบครัวเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากการค้าน้ำมันเถื่อนกับกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรียจริง โดยในระหว่างการแถลงข่าวได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่แสดงให้เห็นกลุ่มรถบรรทุกน้ำมันจำนวนหนึ่งกำลังขนถ่ายน้ำมันดิบในพื้นที่ยึดครองของกลุ่มไอเอส ก่อนที่จะข้ามพรมแดนเข้าไปในตุรกี

 

รมว.กลาโหมรัสเซียระบุว่า ในโลกตะวันตกไม่มีใครที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับการที่บุตรชายของประธานาธิบดีตุรกี เป็นผู้นำหนึ่งในบริษัทด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุด หรือแม้แต่ในกรณีที่บุตรเขยของประธานาธิบดี ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ

 

จากการคาดการณ์เกี่ยวกับมูลค่าการค้าน้ำมันที่กลุ่มไอเอสขโมยมาจากอิรักและซีเรียในรอบ 4 ปีแล้ว เชื่อว่ามีมูลค่าอย่างน้อย 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน ขณะที่ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย ทำให้รายได้จากการค้าน้ำมันลดลงไปถึงร้อยละ 50 หรือวันละประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ