<"">
ทางการฟิลิปปินส์ยกระดับการเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นและสั่งอพยพประชาชน 750,000 คนจากพื้นที่ หลังจากพายุไต้ฝุ่นเมอโลร์พัดขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศในวันนี้
วันนี้ (14 ธ.ค.2558) คลื่นสูงและลมแรงในจังหวัดกามารีนส์ ซูร์ ทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์เป็นผลมาจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเมอโลร์ หรือที่ชาวฟิลิปปินส์เรียกว่าพายุโนนา ซึ่งพัดขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในวันนี้
ความรุนแรงของพายุทำให้ทางการฟิลิปปินส์ยกระดับการเตือนภัยพายุเป็นระดับสีแดงใน 20 จังหวัด, ปิดสถานศึกษาและหน่วยงานบางแห่งเป็นการชั่วคราว รวมทั้งอพยพประชาชน 750,000 คน ออกจาก 3 จังหวัดตอนกลางของประเทศไปยังพื้นที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังสั่งระงับเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 40 เที่ยวบินพร้อมทั้งห้ามเดินเรือข้ามฟาก 73 ลำ และเรือประมงอีกจำนวนมาก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หลังจากที่พายุไต้ฝุ่นเมอโลร์พัดถล่มหมู่บ้านบาตักทางตอนเหนือของเกาะซามาร์ ส่งผลให้มีผู้โดยสารตกค้างกว่า 8,000 คน
นายอเล็กซานเดอร์ ปามา ผู้อำนวยการสภาการจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ความรุนแรงของพายุไต้ฝุ่นเมอโลร์อาจทำให้เกิดนํ้าท่วมฉับพลัน, ดินถล่ม และคลื่นซัดฝั่ง หรือ สตอร์ม เซิร์จ สูงถึง 4 เมตร และอาจส่งผลกระทบต่อระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าและการสื่อสารด้วย
ด้านเว็บไซต์พยากรณ์อากาศแอคคิวเวเธอร์ ระบุว่า พายุลูกนี้อ่อนกำลังลงหลังจากพัดขึ้นฝั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ แต่ยังคงมีอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ขณะที่นางเอสเปรันซา กายานาน ผู้อำนวยการสำนักบรรยากาศศาสตร์ ธรณีฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ฟิลิปปินส์ (ปากาซา) กล่าวว่า ฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นเมอโลร์จะช่วยคลายความรุนแรงของภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปีนี้ได้