ตร.ออกหมายจับผู้ก่อเหตุขโมยเด็กแรกคลอด รพ.ร้อยเอ็ด ตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์

ภูมิภาค
24 ธ.ค. 58
21:01
236
Logo Thai PBS
ตร.ออกหมายจับผู้ก่อเหตุขโมยเด็กแรกคลอด รพ.ร้อยเอ็ด ตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์
ตร.ร้อยเอ็ด ออกหมายจับ น.ส.รจนา สุภวิเศษ ข้อหาพรากผู้เยาว์ หลังไม่พบสารบ่งชี้เคยตั้งครรภ์ ขณะที่ผลตรวจดีเอ็นเอเด็กและผู้ปกครองแจ้งลูกหายหลังคลอดที่ รพ.ร้อยเอ็ดตรงกัน

วันนี้ (24 ธ.ค. 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ตั้งข้อสังเกตถึงทางเดินเท้าที่เชื่อมต่อไปยังตึกสูติกรรม ซึ่งไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ว่าอาจเป็นเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุใช้ลักพาตัวเด็กทารกแรกเกิดออกจากโรงพยาบาลวานนี้ (23 ธ.ค. 2558) โดยอาศัยประตูทางทิศตะวันออกหลบหนี

ตึกสูติกรรมที่ดูแลแม่และเด็กหลังคลอด เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดให้บริการได้เพียง 3 เดือน แม้ยังไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด แต่มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เฝ้าเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นพ.เกรียงไกร โกวิทางกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ระบุว่า เป็นเหตุสุดวิสัย เนื่องจากช่วงเกิดเหตุ มีการซ้อมแผนอัคคีภัยภายในอาคาร ผู้คนเข้า-ออกจึงพลุกพล่าน

          

โดยเหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นในช่วงบ่าย ระหว่างแม่เด็กเข้าห้องน้ำ ผู้ก่อเหตุอาศัยจังหวะนี้เข้ามาลักพาตัวเด็กที่นอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง

ไม่ถึง 4 ชั่วโมง ตำรวจพบเบาะแสเด็กทารกที่ถูกลักพาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด จึงนำตัวเด็กและทั้งพ่อแม่ที่เข้าแจ้งความลูกหายตรวจเลือด ก่อนพบว่ากรุ๊ปเลือดตรงกัน นอกจากนี้ทางผู้ปกครองต่างยืนยันรูปพรรณสัณฐานว่าเด็กที่พบนั้นเป็นลูกของตนเอง

ทั้งนี้ ความคืบหน้าในคดีดังกล่าว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำ น.ส.รจนา สุภวิเศษ ที่อ้างว่าเป็นแม่เด็ก ซึ่งให้การว่าคลอดลูกที่บ้านเกิดใน ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด เมื่อวานนี้ ก่อนจะมาพักฟื้นที่โรงพยาบาลเอกชน

แต่ผลตรวจร่างกายของสูตินรีเวชยืนยันว่า น.ส.รจนา ไม่มีการตั้งท้องมาก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา พรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา

ทั้งนี้ คดีขโมยเด็กทารกดังกล่าว เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ทำให้ทางโรงพยาบาลเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมอีก 60 จุด จากเดิมที่มีอยู่ 119 จุด โดยเฉพาะตึกคลอด และทางเดินเชื่อมต่อระหว่างอาคาร รวมทั้งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในจุดเสี่ยง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง