"กองทัพไทย" ยื่นฟ้องแผนแม่บท กสทช. หลังเปิดทางวิทยุสมัครเล่นใช้คลื่นร่วมกับทหาร

สังคม
11 ม.ค. 59
14:34
3,532
Logo Thai PBS
"กองทัพไทย" ยื่นฟ้องแผนแม่บท กสทช. หลังเปิดทางวิทยุสมัครเล่นใช้คลื่นร่วมกับทหาร
กองบัญชาการกองทัพไทย ยื่นฟ้องศาลปกครองเพิกถอนแผนแม่บท กสทช.เปิดทางกิจการวิทยุสมัครเล่นในคลื่นความถี่ย่าน 50–54 MHz ซ้อนทับคลื่นทหาร หวั่นกระทบการใช้คลื่นเพื่อความมั่นคงของประเทศ

วันนี้ (11 ม.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ของวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค.) มีวาระที่ กทค.เตรียมพิจารณาขอรับนโยบาย หลังจากกองบัญชาการกองทัพไทย ยื่นฟ้องสำนักงาน กสทช. ต่อศาลปกครอง เมื่อเดือน ธันวาคม 2558 ในประเด็นพิพาทเกี่ยวกับการจัดทำแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2558) และตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ (พ.ศ.2558) ด้วยเหตุผลว่าการออกประกาศฉบับนี้ทำให้มีผลกระทบต่อการใช้คลื่นความถี่เพื่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากการออกประกาศส่งผลทำให้การใช้งานวิทยุสมัครเล่นสามารถใช้งานในคลื่นความถี่ย่าน 50–54 MHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่ปัจจุบันทางกองทัพใช้เครื่องวิทยุสื่อสารสำหรับปฏิบัติการทางทหารของเหล่าทัพต่างๆ ในย่านความถี่ 30–87 MHz ซึ่งรวมถึงย่านความถี่ 50–54 MHz นี้ด้วย

ดังนั้น ในคำฟ้องต่อศาลปกครองกลางของกองบัญชาการกองทัพไทย จึงต้องการขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนกิจการวิทยุสมัครเล่นในคลื่นความถี่ย่านนี้ออกจากประกาศ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ศาลรับคำฟ้อง แต่ยังไม่ได้มีการประทับรับฟ้องไว้พิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เดิมเนื้อหาของร่างประกาศฉบับนี้ที่สำนักงาน กสทช. เคยเสนอให้ที่ประชุม กทค.พิจารณาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2558 ได้ยกเลิกการกำหนดให้กิจการวิทยุสมัครเล่นเป็นกิจการรองของการใช้งานย่านความถี่ 50–54 MHz ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากการจัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ โดยมีผู้เห็นด้วยกับการยกเลิกราว 30,000 ราย ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยมีจำนวน 635 ราย แต่ปรากฏว่าในการประชุมครั้งดังกล่าว กทค. ได้มีการลงมติด้วยเสียงข้างมากให้กำหนดกิจการวิทยุสมัครเล่นไว้เป็นกิจการรองต่อไปจนกว่าผลการศึกษาการใช้งานคลื่นความถี่ร่วมกันระหว่างกิจการและการแก้ไขเชิงอรรถระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องจะแล้วเสร็จ มีเพียงนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กทค. คนเดียว ที่ลงมติเป็นเสียงข้างน้อยเสียงข้างน้อย จากจำนวน กทค.ทั้งหมด 4 คน

ก่อนหน้านี้ นายประวิทย์ได้เคยสงวนความเห็นไว้ในการประชุมกรณีดังกล่าวว่า “หาก กทค.จะมีการใช้ดุลยพินิจในแนวทางที่แย้งกับสิ่งที่สำนักงาน กสทช. เสนอตามผลการรับฟังความคิดเห็น ก็ควรต้องมีเหตุผลสนับสนุนที่ชัดเจนและมีน้ำหนักดีพอสมควร อีกทั้งควรกำหนดมาตรการให้สำนักงาน กสทช. สอบถามและขอความเห็นจากหน่วยงานความมั่นคงเสียก่อน ในฐานะที่เป็นฝ่ายสนับสนุนหลักให้ตัดส่วนของกิจการวิทยุสมัครเล่นออก เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้”

ทั้งนี้ ที่ประชุม กทค. ครั้งดังกล่าวได้เป็นบรรทัดฐานให้เกิดมติ กสทช.ในลำดับถัดมา และกลายเป็นชนวนเหตุให้กองบัญชาการกองทัพไทยฟ้องร้องขึ้น ซึ่งในการจัดทำวาระของสำนักงาน กสทช.เข้าที่ประชุม กทค. เพื่อพิจารณาในครั้งนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง