เครือข่ายประชาชนภาคเหนือ เดินธรรมยาตราลุ่มน้ำปิง ทำความเข้าใจภัยแล้ง

สิ่งแวดล้อม
20 ม.ค. 59
13:47
355
Logo Thai PBS
เครือข่ายประชาชนภาคเหนือ เดินธรรมยาตราลุ่มน้ำปิง ทำความเข้าใจภัยแล้ง
วันนี้เป็นวันแรกของการเดินธรรมยาตราเพื่อรับรู้ปัญหาและตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแม่น้ำปิง ซึ่งขณะนี้กำลังประสบกับปัญหาภัยแล้ง ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา พระสงฆ์ ประชาชน และผู้ที่สนใจร่วมเดินทางกว่า 30 ชีวิต เข้าร่วม

วันนี้ (20 ม.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานจากเส้นทางริมแม่น้ำปิง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ว่า เครือข่ายประชาชนเพื่อการดูแลแม่น้ำปิง พร้อมด้วยพระสงฆ์ ประชาชนทั่วไป ได้เริ่มออกเดินในกิจกรรมเดินธรรมยาตราด้วยศรัทธา จากป่า สู่สายน้ำ เพื่อรับรู้การเปลี่ยนของสิ่งแวดล้อม โดยเช้านี้ได้ออกเดินทางจากวัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีเป้าหมายเพื่อเดินทางตลอดริมสายน้ำปิงสิ้นสุดที่ อ.เมืองเชียงใหม่ รวมเวลา 12 วัน การเดินทางในวันนี้เป้าหมายอยู่ที่ 3.3 กิโลเมตร สภาพอากาศที่ร้อนจัดในขณะนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรค สำหรับผู้ร่วมเดินธรรมยาตรา เพราะนอกจากการฝึกฝนความอดทนแล้วนะคะ ตลอดทางยังได้เรียนรู้การรับฟังเสียงของธรรมชาติและคนในชุมชนด้วย

การเดินธรรมยาตราธรรม เป็นกิจกรรมที่ต้องการรณรงค์ให้ประชาชน และหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมมือฟื้นฟูแม่น้ำปิงอย่างจริงจัง เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาและคาดหวังว่าพื้นที่ลุ่มน้ำสำคัญอื่นๆ จะหันมามองปัญหาร่วมกัน ประชาชนที่มาไม่ได้มีเพียงคนเชียงใหม่เท่านั้น แต่มีหลายจังหวัด เช่น เกษตรกรจากจังหวัดระยอง ที่ต้องการรู้ปัญหาที่ทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป ตลอดระยะทาง 2 กิโลเมตรก่อนเข้าสู่เวลา 12.00 น.ขบวนมีการหยุดภาวนาเพื่อรำลึกถึงคุณงามความดีของแม่น้ำ ซึ่งเป็นจุดที่มีแม่น้ำจากต้นน้ำแม่ปิง และห้วยแม่เกี๋ยง ไหลมาบรรจบกัน โดยจุดนี้มีการให้ข้อมูลถึงฝายแม่ปิงลูกที่ 2 ของกรมชลประทาน ที่เป็นการจัดการน้ำจากความรู้ด้านวิศวกรรมที่มองน้ำเป็นเพีงทรัพยากร ส่งผลกระทบถึงสิ่งมีชีวิตอื่นในน้ำ และการทับถมของหิน ดินตะกอน ทำให้สายน้ำนั้นเดินทางผิดธรรมชาติ

นายนิคม พุทธา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่ปิงตอน เปิดเผยว่า กิจกรรมนี้อาจไม่สามารถแก้ปัญหาภัยแล้งได้ทันที แต่เป็นการร่วมทำความเข้าใจปัญหาที่ซับซ้อนกับคนในพื้นที่

"ทำให้เรารู้ว่าปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ไม่ควรสรุปเพียงว่าชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ป่า แล้วตัดไม้ทำลายป่า ทำให้เรารู้ถึงเหตุและปัจจัยที่มีความสลับซับซ้อนมากกว่านั้น ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการตัดไม้ทำลายป่า" นายนิคมกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง