วันนี้ (25 ม.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปรากฏการณ์ตุ๊กตาลูกเทพฟีเวอร์ แท้จริงเกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ที่ยิ่งแรงมากขึ้นอีกในปีนี้ เพราะภาคธุรกิจบริการพร้อมใจกันตอบรับ โดยขณะนี้ ไม่ว่าสายการบินหรือรถทัวร์ก็ล้วนเปิดโปรโมชั่นแรง ต้อนรับตุ๊กตาลูกเทพให้โดยสารไปกับเจ้าของได้จนเกิดเป็นกระแสข่าว
ยากจะคาดเดาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงข่าวโหมกระแส หรือตุ๊กตาลูกเทพกลายเป็นที่พึ่งทางใจในยุค 2016 ซึ่ง อาจารย์เทพ พงศาวดาร หนึ่งในผู้ปลุกเสกตุ๊กตาลูกเทพ เผยว่า วันนึงมีคนนำลูกเทพมาให้ปลุกเสกไม่น้อยกว่า 10 ตัว และปัจจุบันความนิยมในเรื่องตุ๊กตาลูกเทพยังกระจายไปยังหลายประเทศในเอเชีย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า สำหรับตุ๊กตาที่จะนำมาเป็นลูกเทพนั้น ราคาเบื้องต้นเริ่มที่สี่หลัก ถ้าหากเจิมและเข้าพิธีตามความเชื่อราคาจะเขยิบขึ้นไปอยู่ที่ห้าหลัก ซึ่งยังไม่รวมราคาค่าโมดิฟายด์ เพราะตุ๊กตาลูกเทพรุ่นใหม่ยังต้องนำไปปรับลุคให้ดูทันสมัย เช่น ทำสีผมใหม่และดูแลให้นุ่มสลวย บางตัวยังต้องติดขนตาล่างเพิ่มด้วย
ตุ๊กตาลูกเทพเมื่อเจิมและเข้าพิธีตามความเชื่อราคาสูงถึงตัวละหลักหมื่นบาท
ตุ๊กตาลูกเทพเมื่อเจิมและเข้าพิธีตามความเชื่อราคาสูงถึงตัวละหลักหมื่นบาท
อย่างไรก็ดี การเลี้ยงดูตุ๊กตาลูกเทพแบบเกินจริง โดยใส่ใจไม่ต่างจากคนเริ่มมีมากขึ้น ทำให้เกิดกระแสเสียงทั้งเห็นด้วยและเห็นต่าง แม้เป็นเรื่องศรัทธาส่วนบุคคล แต่จำนวนลูกเทพและค่านิยมเลี้ยงดูที่ทวีมากขึ้น ถึงขั้นขายส่งและมีร้านรับดูแลโดยเฉพาะ ยังสะท้อนวิธีคิดและอีกมุมที่สังคมไทยกำลังเผชิญ
ศ.สุกัญญา สุจฉายา นักวิชาการด้านคติชนวิทยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีกุมารทอง แต่เป็นความนิยมของคนเฉพาะกลุ่ม แต่กรณีของตุ๊กตาลูกเทพเป็นสิ่งที่สะท้อนแฟชั่นของคนเลี้ยงไปด้วย ดั้งนั้น จึงไม่ใช่เรื่องศาสนาแต่เป็นไสยศาสตร์ที่มีการตลาด องค์กรทางศาสนาน่าจะให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องนี้
ในยุคที่ตุ๊กตาลูกเทพอวดโฉมบนโซเชียล มีแรงคลิกไลค์และแชร์ช่วยผลักดันจนโด่งดัง ทำให้หลายครั้งภาพการเลี้ยงดูที่หรูหราเป็นตัวแทนสะท้อนสถานะทางสังคม ความเชื่อนี้จะอยู่ยืนหรือส่งผลดั่งใจหวังให้เจ้าของหรือไม่ เป็นเรื่องยากจะหาคำตอบ แต่สิ่งที่เกิดแล้วคือธุรกิจความเชื่อกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในสังคมไทย