อดีตผู้พิพากษาเปิดข้อกฎหมายคดีฆ่าฝังพัทลุง ระบุโหดเหี้ยมเกินคนปกติ-แม้สารภาพก็ไม่ควรลดโทษ

อาชญากรรม
3 ก.พ. 59
08:46
416
Logo Thai PBS
อดีตผู้พิพากษาเปิดข้อกฎหมายคดีฆ่าฝังพัทลุง ระบุโหดเหี้ยมเกินคนปกติ-แม้สารภาพก็ไม่ควรลดโทษ
อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาอธิบายข้อกฎหมายคดีทำร้ายร่างกายและฆาตกรรมคู่รักวัยรุ่นที่พัทลุงว่าเป็นการกระทำความผิดที่โหดเหี้ยมเกินกว่าคนปกติ และมีการไตร่ตรองไว้ก่อน แม้จะมีการสารภาพ แต่ไม่สมควรได้รับการลดหย่อนโทษ เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานแน่ชัด

วานนี้ (2 ก.พ.) นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค Chuchart Srisaeng เพื่ออธิบายข้อกฎหมายในเบื้องต้นว่า .....มีผู้ขอให้อธิบายข้อกฎหมายกรณีที่ผู้ชายกลุ่มหนึ่งขู่บังคับผู้ชายกับผู้หญิงซึ่งคนรักกัน 2 คน ขึ้นรถจักรยานยนต์เข้าไปในป่าแล้วมีการขุดหลุมให้ผู้ชายนั่งที่ปากหลุมและผู้ชายกลุ่มนี้ได้ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้หญิงต่อหน้าผู้ชายที่เป็นคนรัก จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ชายถึงแก่ความตายเอาศพฝังในหลุม ส่วนผู้หญิงได้นำตัวขึ้นรถกระบะไปแล้วใช้อาวุธปืนยิง ใช้มีดแทง และได้โยนทิ้งเหวในป่าข้างทาง ต่อมาผู้หญิงคนนั้นฟื้นขึ้นมา ได้มีคนนำส่งโรงพยาบาลและได้แจ้งให้เจ้าหน้าตำรวจทราบและได้มีการจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดได้บางคนแล้ว
.....ขอเรียนว่า ข้อกฎหมายที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นการกล่าวตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อมวลชน ถ้าข้อเท็จจริงเปลี่ยนไปข้อกฎหมายก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย
.....การใช้อาวุธปืนขู่บังคับให้ผู้ชายกับผู้หญิงผู้เสียหายให้นั่งรถจักรยานยนต์ไปด้วย เป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
.....การร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้หญิงผู้เสียหาย เป็นการร่วมกระทำอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคสอง มีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต
.....การใช้อาวุธปืนยิงผู้ชายถึงแก่ความตาย โดยมีการขุดหลุมเพื่อฝังศพไว้ก่อน เป็นการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) มีโทษประหารชีวิต
.....การใช้อาวุธปืนยิงและใช้มีดแทงผู้หญิงผู้เสียหาย เป็นการพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของผู้กระทำ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (8), 80 มีโทษจำคุกตลอดชีวิต
.....การกระทำความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกรรมและนับโทษต่อกัน ยกเว้นถ้าศาลลงโทษประหารชีวิตในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามมาตรา 289 (4) ก็ไม่อาจลงโทษจำคุกในความผิดฐานอื่นๆ ได้อีก
.....โดยความเห็นส่วนตัวเห็นว่า การกระทำหรือพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดในคดีนี้มีจิตใจเหี้ยมโหดเกินกว่าคนปกติธรรมดาจะกระทำได้ แม้จะให้การรับสารภาพก็ไม่ให้ความรู้แก่ศาล อันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เพราะมีผู้หญิงผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยานที่รับฟังลงโทษผู้กระทำความผิดได้อยู่แล้ว ศาลจึงไม่ควรลดโทษให้และต้องไม่ลดโทษให้ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง