สหรัฐฯ ประกาศปกป้องเกาหลีใต้

ต่างประเทศ
24 พ.ย. 53
03:23
60
Logo Thai PBS
สหรัฐฯ ประกาศปกป้องเกาหลีใต้

สหรัฐฯประกาศปกป้องเกาหลีใต้อย่างสุดกำลังความสามารถ จากกรณีที่เกาหลีเหนือยิงกระสุนปืนใหญ่กว่า 200 นัดเข้ามายังดินแดนเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ ขณะที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากฝ่ายเกาหลีเหนือทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯเผยภาพการหารือสถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ทั้งนี้มีการเปิดเผยว่าประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าได้ประกาศยืนยันที่จะปกป้องเกาหลีใต้อย่างสุดกำลังความสามารถ โดยสหรัฐฯเคยเข้าช่วยเกาหลีใต้รบในสงครามเกาหลีเมื่อกว่า 60 ปีที่แล้ว ซึ่งสงครามครั้งนั้นปะทุขึ้นเมื่อกองทัพเกาหลีเหนือบุกผ่านเส้นขนานที่ 38 ลงมายังดินแดนเกาหลีใต้ โดยการรบกันอย่างดุเดือดตลอดช่วง 3 ปีนั้นเป็นการผลักดันกำลังทหารเกาหลีเหนือให้ถอยร่นกลับไป อย่างไรก็ตามการยุติการรบในปีพุทธศักราช 2496 เป็นเพียงการทำข้อตกลงพักรบไม่ใช่สนธิสัญญาสันติภาพ ซึ่งมีผลให้ทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จึงยังคงดำรงสถานะรัฐคู่สงครามจนถึงปัจจุบัน โดยสงครามเกาหลีในครั้งนั้นจีนได้ส่งทหารเข้าร่วมรบในฝ่ายของเกาหลีเหนือ ซึ่งประธานาธิบดีโอบาม่าได้ระบุด้วยว่าจะบอกให้จีนช่วยพูดกับรัฐบาลเกาหลีเหนือว่ามีกฏเกณฑ์ระหว่างประเทศมากมายที่เกาหลีเหนือต้องเคารพและปฏิบัติตาม
หลังเกาหลีเหนือยิงกระสุนปืนใหญ่กว่า 200 นัดเข้ามาตกบนเกาะยอนเปียงของเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ (23พ.ย.)โดยเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือประมาณช่วงเที่ยงตามเวลาในไทยส่งผลให้อาคารหลายสิบแห่งรวมทั้งที่ตั้งทางทหารของเกาหลีใต้เกิดไฟลุกไหม้ ประชาชนต่างพากันวิ่งหนีหลบภัย ขณะที่เกาหลีใต้แถลงว่ามีทหารนาวิกโยธินของตนเสียชีวิต 2 นาย นอกจากนี้ยังมีทหารได้รับบาดเจ็บอีก 16 นายและพลเรือน 3 คน ด้านประธานาธิบดีลีเมียงบั๊คของเกาหลีใต้ประกาศว่าหากเกาหลีเหนือยังขืนยั่วยุอีกก็จะถือว่าเป็นการเปิดฉากบุกรุกราน ซึ่งเกาหลีใต้ก็จะยิงขีปนาวุธโจมตีทันที

สำหรับเกาะยอนเปียงตั้งอยู่ห่างจากเกาหลีเหนือเพียง 11 กิโลเมตร โดยมีประชาชนอาศัยอยู่กันอย่างเบาบางประมาณ 1,700 คน และด้วยความที่อยู่ใกล้เกาหลีเหนือ ทางเกาหลีใต้จึงได้ส่งทหารเข้ามาประจำการจำนวนมาก ซึ่งก่อนที่เกาหลีเหนือจะยิงปืนใหญ่เข้ามานั้นทหารเกาหลีใต้กำลังซ้อมรบ โดยอ้างว่าเกาหลีใต้เป็นฝ่ายเปิดฉากยิงขึ้นก่อน ซึ่งเกาหลีใต้ได้ปฏิเสธและได้ยิงปืนใหญ่ตอบโต้กลับไปเช่นกันประมาณ 80 นัด โดยขณะนี้เกาหลีเหนือยังนิ่งเงียบและไม่เปิดเผยความสูญเสีย

ด้านกระทรวงต่างประเทศของจีนได้แถลงว่าต้องสอบสวนว่าใครกันแน่ที่เปิดฉากยิงขึ้นก่อน แต่ทั้งนี้จีนก็ไม่ประสงค์ให้เกิดความขัดแย้ง และขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายยับยั้งชั่งใจเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความสงบสุขบนคาบสมุทรเกาหลี


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

-
ข่าวที่เกี่ยวข้อง