สื่อไทยวิเคราะห์คู่ชก 
สำหรับสื่อไทยมองศึกแห่งศตวรรษคู่นี้ว่าเป็นการพบกันระหว่างมวย 2 สไตล์ โดยฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เป็นมวยบ๊อกเซอร์ ถนัดตั้งรับ ส่วนมวยเดินไล่ต่อย หรือ ไฟต์เตอร์ เป็นสไตล์ของเดอะแพ็คแมน แมนนี่ ปาเกียว คู่นี้ถือว่ามีความสูสีกันมาก โอกาสแพ้ชนะพอ ๆ กัน แต่ความได้เปรียบเรื่องกรรมการนั้นอยู่ฝั่งของ เมย์เวทเธอร์ ขณะที่ ปาเกียว จะเรียกคะแนนจากแฟน ๆหมัดมวยได้มากกว่า เพราะเป็นนักมวยประวัติดีที่ทำประโยชน์ให้กับสังคมค่อนข้างมากผิดกับ เมย์เวทเธอร์ ที่มีแต่ข่าวด้านลบ
ส่วนสื่อต่างประเทศเจาะลึกเรื่องอาวุธเด็ดของทั้งคู่ มีการเปรียบเทียบหมัดซ้ายตรงของ ปาเกียว กับ ขวาตรงของ เมย์เวทเธอร์ สไตล์การชกแบบเดินหน้าบุกเข้าใส่ แสดงให้เห็นว่า ปาเกียว ค่อนข้างมั่นใจในความหนักแน่นในหมัดซ้ายของตัวเอง แต่การออกหมัดซ้ายแต่ละครั้ง ปาเกียว อาจต้องคิดหนักไม่น้อย เนื่องจากความคล่องตัวถือเป็นจุดเด่นของ เมย์เวทเธอร์ แม้หมัดขวาของนักชกไร้พ่าย อาจไม่ใช่หมัดที่รุนแรงมากนักแต่ก็มีความแม่นยำ รวดเร็ว หาก ปาเกียว ออกหมัดพลาด ก็มีโอกาสจะโดน เมย์เวทเธอร์ ออกหมัดสวนกลับได้
ส่วนหมัดแย็บเป็นส่วนสำคัญที่อาจตัดสินผลแพ้ชนะของมวยคู่นี้ถ้าวัดในด้านประสิทธิ์ภาพปาเกียว ถือเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบกว่า จากความรุนแรงในการออกหมัดแย็บของ ปาเกียว ซึ่งไม่ใช่แค่การก่อกวนคู่แข่ง แต่อาจทำให้คู่ต่อสู้เกิดสภาวะช็อคชั่วคราว หากถูกหมัดแย็บในจุดสำคัญ ในขณะเมย์เวทเธอร์ มักไม่ค่อยออกหมัดแย็บเหมือนนักมวยรายอื่น ๆ ซึ่งเขามักจะเลือกใช้ความคล่องตัวและฟุตเวิร์ค ดักต่อยเวลาคู่แข่งออกหมัดพลาดมากกว่า ดังนั้นหมัดแย็บน่าจะเป็นปัญหาสำหรับ ฟลอยด์ ไม่น้อย
สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ว่าการตัดสินผลแพ้ชนะของคู่นี้อาจอยู่ที่การชิงจังหวะว่าใครมีความไวมากกว่ากัน โดยเมย์เวทเธอร์ จะเป็นฝ่ายที่เหนือกว่าหากวัดจากความคล่องตัว สายตาในการหลบหลีก จนได้รับฉายา "พริตตี้ บอย" เนื่องจากทุกครั้งที่ขึ้นชกมักไม่ค่อยมีรอยแผลบนใบหน้า