เทคโนโลยีสะท้อนตัวตน : คนดังกับผลกระทบการใช้สื่อออนไลน์
ภาพการถูกเพื่อนๆ วง T-ara รุมแกล้งในรายการโทรทัศน์ของ ฮวายอง อาจมองเป็นเพียงการล้อเล่น หากไม่มีข้อความเหน็มแนมทางทวิตเตอร์ของเหล่าเพื่อนสมาชิกตามออกมา จนกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุของความขัดแย้งที่ทำให้อดีตสมาชิกวัย 19 ปีต้องออกจากวง สร้างกระแสความไม่พอใจในหมู่แฟนเพลงจนอาจส่งผลถึงอนาคตของวง และทำให้หลายค่ายออกมาสั่งห้ามศิลปินวิจารณ์ประเด็นดังกล่าวทางทวิตเตอร์ รวมถึงควบคุมการแสดงความเห็นของศิลปินผ่านโลกออนไลน์ เพื่อป้องกันไม่ให้การแสดงความคิดเห็นย้อนกลับมาทำร้ายตัวศิลปินอย่างในกรณี นี้
ปัจจุบันเครือข่ายสังคมออนไลน์กลายเป็นช่องทางที่ดนดังทั่วโลกใช้สื่อสารกับ แฟนคลับอย่างแพร่หลาย แต่บ่อยครั้งสื่อเหล่านี้กลับเปิดเผยด้านลบของคนดัง ทั้งตอนที่ อดัม เลวิน โพสต์ข้อความหยาบคายต่อสถานีฟ็อกซ์ที่นำเพลงของเขาไปใช้, ไนเจล ลิธโก เจ้าของ American Idol ต่อว่าผู้ติดตามทวิตเตอร์ของเขาอย่างรุนแรงที่เปรียบเทียบกับกับคู่แข่ง อย่าง X Factor จนถึงการวิวาทกลางบาร์ในนิวยอร์กระหว่างคริส บราวน์และเดรก ที่ความขัดแย้งยังลุกลามเมื่อคู่กรณีใช้พื้นที่ออนไลน์โจมตีกันอย่างต่อ เนื่อง
ลอนดอนเกมครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แฟนกีฬาสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนัก กีฬาคนโปรดได้ผ่านทวิตเตอร์ แต่มีนักกีฬาหลายคนที่ใช้ช่องทางดังกล่าวอย่างไม่เหมาะสม ทั้ง วอล่า ปาปาคริสตอส นักกีฬาเขย่งก้าวกระโดดทีมชาติกริซและมิเชล มอร์กาเนลล่า นักฟุตบอลทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกแบนจากการแข่งขันหลังโพสต์ข้อความเหยียดผิวผ่านทวิตเตอร์, การจับกุมแฟนวัยรุ่นที่ใช้ทวิตเตอร์ข่มขู่ ทอม เดลีย์ นักกระโดดน้ำทีมเจ้าภาพ จนถึงข้อกล่าวหาการใช้ทวิตเตอร์โปรโมทสปอนเซอร์ของนักกีฬาซึ่งผิดกฏโอลิมปิก
การฆ่าตัวตายของคนวงการบันเทิงเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่องระหว่างปี 2007-2008 ที่มีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการถูกกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ นำมาซึ่งการทบทวนกฏหมายหมิ่นประมาททางอินเทอร์เน็ท เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่ออกกฎหมายเอาผิดพฤติกรรมการกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ในหลายรัฐ เพื่อยับยั้งการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์ติดต่อ กันอย่างสะดวกสบายขึ้น กลายเป็นเครื่องมือทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง