นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ประกาศให้อำเภอสตึก เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากภาวะฝนทิ้งช่วงแล้ว หลังจากพบว่านาข้าวของเกษตรกรขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าวเสียหายกว่า 100,000 ไร่
นอกจากนี้ ยังมีอีก 5 อำเภอ คือ อำเภอลำปลายมาศ นางรอง โนนดินแดง นาโพธิ์ และโนนสุวรรณที่อยู่ระหว่างการเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากภาวะฝนทิ้งช่วงเพิ่มเติมอีก
ส่วนมาตรการความช่วยเหลือเบื้องต้นได้ให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแหล่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกร แต่หากนาข้าวแห้งตายเสียหายสิ้นเชิงให้เร่งเข้าไปสำรวจ เพื่อเสนอรายงานจังหวัดพิจารณาจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของทางราชการต่อไป
ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมาภาวะฝนทิ้งช่วงถึง 2 รอบ คือ ในช่วงเดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคมนานถึง 2 สัปดาห์ ส่งผลให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิงเตรียมยุติการส่งน้ำให้เกษตรกร ตั้งแต่วันนี้ (15 ส.ค.) เป็นต้นไป หลังจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างฯน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับก่อนหน้านี้มีการพร่องน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ล่าสุดปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 20.98 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุทั้งหมดรวม 109.63 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 19.13 ของความจุอ่าง
โดยหลังจากนี้ หากยังไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ ทางสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เตรียมประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ขอสนับสนุนปฏิบัติการทำฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร