แทนที่ 
การแทนพื้นที่ป่าพรุด้วยสวนปาล์ม เกิดขึ้นแทบทุกพื้นที่รอบบริเวณป่าพรุ ที่เคยเป็นป่าชุ่มน้ำอุดมสมบูรณ์ ผู้บุกรุกใช้วิธีการขุดคูคลอง เพื่อผันน้ำจากป่าพรุให้ไหลลงสู่ท้องร่องของสวนปาล์ม จึงทำให้ป่าขาดความสมดุลและเกิดความแห้งแล้งผิดธรรมชาติ
ปัญหานี้สอดคล้องกับงานวิจัยของนักวิชาการ สถาบันทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่พบความสูญเสียของระบบนิเวศของป่าพรุ จากการบุกรุกพื้นที่ด้วยการปลูกปาล์ม โดยเฉพาะการขุดคูย้ายดินเพื่อยกร่องให้สูง ทำให้น้ำจากผืนป่าพรุไหลลงสู่คูที่มีระดับต่ำกว่า ป่าพรุจึงไม่สามารถเก็บน้ำได้มากในหน้าฝน และเกิดปัญหาแห้งแล้ง จนนำไปสู่ไฟป่าและการลักลอบเผาป่าเพื่อทำประโยชน์จากที่ดิน
ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้หลายพื้นที่รอบป่าพรุเริ่มได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ ต.เคร็ง อ.ชะอวด นายสมหวัง ฤทธิรงค์ ชาวบ้านในพื้นที่ เริ่มกังวลถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หากทรัพยากรธรรมชาติสูญเสีย ด้วยวิธีการถูกทำลายให้เสียสมดุลทางระบบนิเวศ
นักวิชาการเคยเสนอแนะภาครัฐ ถึงแนวทางการแก้ปัญหาโดยเฉพาะการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมเปิด-ปิด ประตูระบายน้ำคลองชลประทาน เพื่อรักษาระดับน้ำใต้ดินให้อยู่ใกล้ผิวดินตลอดทั้งปี และป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่า แนวทางสวนทางกับสภาพความเป็นจริง เพราะพื้นที่ป่าพรุยังคงถูกบุกรุกอย่างต่อเนื่อง และธรรมชาติก็ไร้สมดุลด้วยฝีมือมนุษย์