สาวน้อยหน้าใสลูกแม่โดมคว้ามิสวีลแชร์ไทยแลนด์ 2012

ก้าวข้ามความบกพร่องทางกาย ขึ้นมาเฉิดฉายบนเวที สาวหน้าใสลูกแม่โดม ชมพู่ ภัทราวรรณ พานิชชา คว้ามิสวีลแชร์ไทยแลนด์คนล่าสุด หวังให้สังคมเห็นศักยภาพของสตรีผู้พิการ ที่มีความรู้ความสามารถทัดเทียมคนปกติในสังคม

ไม่เพียงชนะใจผู้ชมด้วยคำตอบในรอบสุดท้าย ทั้งบุคลิกภาพ และทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิต ทำให้สาววัย 21 ปี ชมพู่ ภัทราวรรณ พานิชชา คว้า 2 รางวัลทั้งมิสป็อปปูล่าร์โหวต และมิสวีลแชร์ไทยแลนด์คนล่าสุด

แม้ไม่สามารถเดินได้ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อ 5 ปีก่อน แต่ความบกพร่องทางกายไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต ภัทราวรรณ กำลังจะสำเร็จการศึกษาจากคณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำลังใจทั้งหมดในการชีวิตมาจากครอบครัว และหวังให้เวทีมิสวิลแชร์ไทยแลนด์ ทำให้เธอเป็นกระบอกเสียงในการเรียกร้องความเท่าเทียมให้กับคนพิการในสังคม

ภัทราวรรณ พานิชชา มิสวีลแชร์ไทยแลนด์ 2012 กล่าวว่า ไม่อยากให้ทุกคนมองว่าเราแปลกแยกหรือแตกต่าง อย่าไปน้อยใจในโชคชะตา เพราะเราต้องทำทุกวันนี้ทำสิ่งที่เราเป็นให้ดีที่สุด อย่าไปคาดหวังสิ่งต่างๆ เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม

หวังเป็นตัวอย่างของความกล้าให้ลูกสาววัย 3 ขวบ มั่นใจในตัวเอง และแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าแม่เป็นแรงผลักดันให้สุภาพร คำสอน ซึ่งเป็นโปลิโอมาตั้งแต่เล็ก เข้าประกวดมิสวีลแชร์ไทยแลนด์ จนได้รับตำแหน่งนางงามมิตรภาพ ขณะที่สาวน้อย จิณจุฑา จุ่นวาที วัย 18 ปี จากโรงเรียนปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี คว้าตำแหน่งรองอันดับ 2 หวังเรียกร้องเรื่องการศึกษาที่ทัดเทียมให้กับผู้พิการ

สุภาพร คำสอน นางงามมิตรภาพ มิสวีลแชร์ไทยแลนด์ 2012 กล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออกเลยออยากจะทำให้เห็นเป็นตัวอย่างว่าคุณแม่อยู่บนรถวีลแชร์ แม่ยังกล้าประกวดให้คนเค้าดู แล้วหนูมีขาสองข้างไม่ต้องนั่งบนรถวีลแชร์ ทำไมหนูจะไม่กล้าหนูต้องทำได้ดีกว่าคุณแม่

จิณจุฑา จุ่นวาที  รองอันดับ 2 มิสวีลแชร์ไทยแลนด์ 2012 กล่าวว่า ในวัยหนูส่วนใหญ่เพื่อนหนูเวลาจะเรียนจบจะหาที่เรียนลำบาก อยากจะฝากถึงโรงเรียนต่างๆ ว่าพวกหนูก็สามารถเรียนร่วมกับเด็กปกติได้ ไม่มีเด็กพิการคนไหนอยากโดนดูถูก หรือสงสาร อยากให้เชื่อมั่นในความสามารถของพวกหนู

หลากหลายแรงบันดาลใจ ทำให้เหล่าสตรีผู้พิการก้าวข้ามความบกพร่องทางกายขึ้นเฉิดฉายบนเวทีมิสวีลแชร์ไทยแลนด์ 2012 การเฟ้นหาสาวงามมนุษย์ล้อที่สง่างาม สมกับเป็นตัวแทนระดับประเทศ เพื่อให้สังคมตระหนักรู้ถึงศักยภาพ สร้างความทัดเทียม และเสนอภาพลักษณ์ที่ดีของสตรีผู้พิการสู่การยอมรับของสาธารณชน
 
วาเนสซ่า กัณโสภณ หรือครูเป็ด AF ผู้อบรมบุคลิกภาพ และการแสดงให้กับนางงาม กล่าวว่า คนที่มีความพิการสามารถเบิกบานสดชื่นได้ เพราะเราก็เป็นคนมีจิตใจเหมือนกัน คนปกติที่มีความเศร้าแย่กว่าเราก็เยอะแยะ ก็จะแชร์ประสบการณ์แล้วเป็นกำลังใจให้เขา

เพชรน้ำหนึ่ง ศรีวรรธนะ ผู้จัดการประกวด มิสวีลแชร์ไทยแลนด์ 2012 กล่าวว่า หวังว่าสังคมจะหันมามองคนพิการโดยเฉพาะสตรีพิการว่ามีความสามารถ สวย และมีความสามารถ มีความมั่นใจที่จะแสดงออก ถึงความคิดของตัวเอง ตอนนี้สังคมก็ได้หันกลับมามอง และได้เล็งเห็นแล้ว

เวทีประกวดสาวงามวีลแชร์ อาจทำให้เสียงของคนกลุ่มหนึ่งได้รับความสนใจในช่วงเวลาหนึ่ง หากแต่สิ่งที่พวกเธอคาดหวังมากไปกว่ารางวัล และมงกุฎ คือการยอมรับ และได้รับการสนับสนุนในโอกาสต่างๆ เท่าเทียมกับคนทั่วไปในสังคม