หลายจังหวัดเตรียมรับมือ 
เจ้าหน้าที่ชลประทานในจ.พิษณุโลก เร่งพร่องน้ำในแม่น้ำน่าน เพื่อเตรียมรับมือพายุโซนร้อนแกมี โดยนายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจ.พิษณุโลก บอกว่า ยังมีน้ำท่วมในอ.พรหมพิราม อ.เมือง และอ.บางระกำ คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติในช่วงกลางเดือนตุลาคม
ชาวบ้านริมแม่น้ำยม ในต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ขนย้ายสัตว์เลี้ยงขึ้นไปไว้บนที่สูง หลังระดับน้ำในพื้นที่ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วม ในอำเภอวชิรบารมี สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง และบึงนาราง
ส่วนเจ้าหน้าที่ประจำฝายราษีไศล ในจ.ศรีสะเกษ ต้องเร่งพร่องน้ำจาก 18 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 35 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง มั่นใจว่าการพร่องน้ำจะไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร และพื้นที่การเกษตรตอนล่าง เนื่องจากยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีกจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยา จ.นครราชสีมา ติดตั้งเครื่องวัดระดับน้ำฝน 40 เครื่องใน 32 อำเภอ เพื่อติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อนแกมีอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์น้ำฝน เพื่อป้องกันผลกระทบในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะอ.วังน้ำเขียว และอ.ปากช่อง ซึ่งจะเป็นจุดรับน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ที่มีปริมาณน้ำขณะนี้ร้อยละ 93
ขณะที่สถานการณ์น้ำทางด้านจ.ปราจีนบุรี น.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกประชุมทุกหน่วยงานให้เฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมทั้งติดต่อประสานงานทุกหน่วยงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในขณะนี้มวลน้ำในจ.ปราจีนมีมากกว่า 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ทางจังหวัดได้เร่งผันน้ำ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำบางกระดาน คูมอญ และบางกระเจ็ด เพื่อช่วยเร่งผันน้ำให้ได้วันละ 7 แสนลูกบาศก์เมตร
ส่วนที่จ.สตูล เมื่อช่วงเช้าเกิดฝนตกหนักและมีลมแรง ทำให้นายกฤติพงษ์ คงแข็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด กำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและน้ำป่าไหลหลาก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมเตือนประชาชนริมแม่น้ำขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง