ทุจริตนำจำข้าว "พรหมพิราม" สะท้อนช่องโหว่นโยบายรัฐบาล

แม้โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลจะช่วยให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาดีขึ้น แต่พบว่า ขั้นตอนรับจำนำยังมีช่องโหว่ และ ทำให้เกิดการทุจริตในหลายขั้นตอน ล่าสุดคือ คดีทุจริตสวมสิทธิ์ที่พบในอำเภอพหรมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งผู้เกี่ยวข้องมีตั้งแต่ชาวนา โรงสี และ เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งการทุจริตที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้ชาวนาบางคน ถอนตัวจากการนำข้าวเข้าร่วมโครงการ ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น

การตรวจสอบคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี 2554/2555 ในพื้นที่ อำเภอพหรมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่ง
 

 

มีชาวนา 8 คน และนายทุน 2 คน ถูกดำเนินคดีไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจนมีการขยายผล และ ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับเจ้าของโรงสีธนวัฒน์ไรซ์มิลล์ เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ผู้แทนข้าราชการ และ ผู้แทนเกษตรกร รวม 4 คน สะท้อนถึงช่องโหว่ของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ที่ยังคงมีการทุจริตอย่างเป็นระบบ สร้างความสูญเสียแก่งบประมาณรัฐต่อเนื่อง

ผู้แทนเกษตรกร ในตำบลหนองนมวัว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ให้ข้อมูลว่า แม้ตามระเบียบของโครงการรับจำนำข้าว หากเกษตรกรไม่ได้ใช้สิทธิการจำนำ ต้องคืนสิทธิให้กับทางภาครัฐแต่ปัญหาการได้รับเงินที่ล่าช้าไม่เป็นไปตามที่ภาครัฐ ระบุว่า จะได้เงินภายใน 3 วันทำให้ชาวนาบางส่วนที่จำเป็นต้องนำเงินไปใช้หนี้ตัดสินใจขายใบรับรองสิทธิ์และใบประทวนให้กับโรงสี แม้รู้ว่าเป็นหนึ่งในขบวนการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

ขณะที่ขั้นตอนการวัดความชื้นข้าวเปลือกเพื่อตีราคาเป็นอีกหนึ่งวิธีที่โรงสีใช้เป็นช่องทางในการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกย้ำให้ชาวนาระวังการถูกเอาเปรียบจากทางโรงสี หลังพบว่า โรงสีข้าวบางแห่งใช้เครื่องวัดความชื้นข้าวเปลือกที่ไม่ผ่านการรับรอง