ส่วนคณะกรรมาธิการการศึกษา การตรวจสอบทุจริต และธรรมาภิบาล วุฒิสภา เชิญ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ที่ทำหนังสือท้วงติง กสทช.มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการเพื่อหาข้อมูลในการเรียกผู้เกี่ยวข้องสอบต่อไป
กรณีที่รองปลัดกระทรวงการคลัง ทำหนังสือท้วงติง กสทช.ว่า การจัดประมูลใบอนุญาต 3 จี ขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และเข้าข่ายทำผิดกฏหมายป้องกันการฮั้วประมูล รวมทั้งส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบนั้น กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ นัดหารือกันในวันที่ 25 ตุลาคม เพิ่อพิจารณาในการรับคำร้อง โดยจะพิจารณารวมกับกรณีของสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และ กลุ่มกรีน ที่ยื่นร้องด้วย
นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า อำนาจหน้าที่ในการรับคำร้องของป.ป.ช.มีเฉพาะการวินิจฉัยว่า กสทช.ได้กระทำความผิดทางอาญาฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือไม่ แต่ไม่มีอำนาจวินิจฉัยเพื่อยับยั้ง หรือชะลอการประมูลได้ ส่วนการดำเนินการเพื่อให้ล้มเลิกการประมูลที่เกิดขึ้นไปแล้ว เป็นอำนาจของศาลปกครอง โดยผู้มีส่วนได้เสียสามารถยื่นคำร้องไปยังศาลปกครองได้
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา อดีตผู้ร่วมร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ เสนอให้ กสทช.ทั้ง 11 คน นัดประชุมด่วน เพื่อกำหนดท่าที หรือ ออกประกาศ ที่เป็นเงื่อนไขให้เอกชนต้องทำ ก่อนมอบใบอนุญาตให้เอกชนอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นหลักประกันให้ผู้บริโภค
ขณะที่กรรมการกสทช. ด้านกิจการกระจายเสียงฯ 5 คน ซึ่งไม่มีอำนาจโดยตรงต่อการจัดประมูล 3 จี มีการนัดหารือ เพื่อพิจารณาความจำเป็นต้องกำหนดท่าที หรือ ร่วมรับผิดชอบต่อเรื่องนี้หรือไม่ จากเดิมที่กรรมการด้านโทรคมนาคม 5 คน ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ