ปชป.เตรียมยื่นศาลรธน. วินิจฉัย หากพรรครัฐบาลเดินหน้าลงมติวาระ3

การเมือง
6 ธ.ค. 55
03:46
47
Logo Thai PBS
ปชป.เตรียมยื่นศาลรธน. วินิจฉัย หากพรรครัฐบาลเดินหน้าลงมติวาระ3

ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรครัฐบาลเดินหน้าการลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการจัดทำประชามติ เฉพาะก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น ทำให้หลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และเป็นห่วงว่าอาจขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และความเร่งรีบอาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 68 หากยังคงเดินหน้าแก้ไข

หลังจากคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายโภคิน พลกุล เป็นประธาน เห็นชอบให้การลงมติร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 และกำหนดให้วันที่ 10 ธันวาคม รณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ขณะที่กำหนดการทำประชามติจะดำเนินการก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่

มีความเคลื่อนไหวจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย โดยนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ผลของคณะทำงานฯ ไม่ปฏิบัติตามความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เคยวินิจฉัย โดยหากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะต้องมีการทำประชามติทั้งก่อนและหลังการยกร่างแก้ไข

ส่วนกระบวนการแก้ไขก็ควรเป็นตามบทบัญญัติรัฐธรรมนุญ มาตรา 291 ที่ต้องแก้เป็นรายมาตรา โดยสมาชิกรัฐสภา สามารถตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้ ไม่ใช่การตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยนายวิรัตน์ ย้ำว่า หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าตามนี้ พรรคประชาธิตย์จะใช้ช่องทางการยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 เพราะเข้าข่ายการล้มล้างรัฐธรรมนูญ

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย โดย นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แม้เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องไม่ก้าวล่วงหมวดสถาบัน และรัฐบาลไม่ควรเร่งรีบที่จะดำเนินการ เพราะอาจเกิดปัญหาจากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยได้

ทั้งนี้เห็นว่า ต้องจัดทำประชามติทั้งก่อน และหลัง การยกร่าง ของส.ส.ร. โดยหากไม่ดำเนินการตามนี้อาจขัดต่อคำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะประชุมกำหนดท่าทีต่อการลงมติรัฐธรรมนุญวาระ 3

และนอกจากประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นประเด็นการเมืองที่ต้องติดตามแล้ว ยังมีกรณีการดำเนินคดีผู้เสียชีวิตในช่วงการชุมนุมของกลุ่ม นปช. วันนี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะเรียกประชุมพนักงานสอบสวนร่วม 3 หน่วยงาน ประกอบด้วยดีเอสไอ ตำรวจ และอัยการ เวลา 14.00 น. เพื่อพิจารณาพยานหลักฐานประกอบการพิจารณาการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ออกคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)


ข่าวที่เกี่ยวข้อง