เมื่อช่วงเช้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้คณะทำงานศึกษาแนวทางการทำประชามติได้ชี้แจงกระบวนการและวิธีการออกเสียงประชามติ เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน"
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงเหตุที่ต้องทำประชามติ เพราะเป็นเจตจำนงค์ของประชาชนที่เห็นตรงกับคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูฯ พร้อมระบุ ว่าการทำประชามติเป็นทางออกที่ดีที่สุด ทั้งความชัดเจนและการอธิบายเหตุและผลได้ โดยเฉพาะการอ้างอิงเพื่อทำความเข้าใจในการลดความขัดแย้งของสังคม แต่ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในทันที เนื่องจากมีข้อกำหนดหลายประเด็น ที่ต้องพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนและเป็นไปตามกฎหมาย จึงเห็นว่า ควรใช้เวลา เพื่อความรอบคอบ
นายวราเทพกล่าวว่า จากความกังวลของหลายฝ่าย กรณีคำถามในการทำประชามติ อาจต้องถามเพียงว่า ควรแก้หรือไม่ควรแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรให้ขึ้นอยู่กับส.ส.ร. พร้อมยอมรับว่า จำนวนคนที่มาใช้สิทธิ์ ถือเป็นเรื่องยากที่เข้าหลักเกณฑ์ของกฎหมาย เพราะมีทั้งผู้ที่ไม่เห็นด้วย และกลุ่มผู้คัดค้าน และอ้างอิงว่า กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จะทำให้รัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย หลังรัฐธรรมนูญตกอยู่ในข้อครหาว่ามีที่มาจากเหตุรัฐประหาร
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวยืนยันว่า ครม.รับทราบแนวทางการทำประชามติ จากข้อสรุปกรณีเปิดรับฟังความคิดจากทุกฝ่าย และหากแล้วเสร็จในการศึกษาแนวทางเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะรายงานให้ ครม.รับทราบอีกครั้ง โดยเชื่อว่าการศึกษาและวางกรอบในรายละเอียดน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 4 สัปดาห์
พล.ต.อ.ประชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการคาดการณ์เรื่อง 23 ล้านเสียงนั้น ต้องยอมรับว่ารู้สึกเป็นห่วง และกลายเป็นวาระสำคัญที่จำเป็นจะต้องเดินหน้าสร้างความเข้าใจกับประชาชนในเหตุและผลของการดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะข้อครหาที่ดำเนินการเพื่อคนคนเดียว