ศาลปกครองสูงสุดให้กลุ่มผู้คัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ชนะคดี ตร.ใช้กำลังสลายการชุมนุม

16 ม.ค. 56
13:07
126
Logo Thai PBS
ศาลปกครองสูงสุดให้กลุ่มผู้คัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ชนะคดี ตร.ใช้กำลังสลายการชุมนุม

ศาลปกครองสูงสุด นั่งบัลลังก์พิจารณาคดีให้กลุ่มผู้คัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย เป็นฝ่ายชนะคดี หลังยืนฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จังหวัดสงขลา และกระทรวงมหาดไทย ว่ากระทำเกินกว่าเหตุ จากกรณีใช้กำลังตำรวจสลายการชุมนุมข้างโรงแรมเจบี ขณะเตรียมเข้ายืนหนังสือคัดค้านโครงการกับนายกรัฐมนตรี เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งนับเป็นคดีประวัติศาสตร์ ถึงการละเมิดเสรีภาพ อันเกี่ยวเนื่องจากการใช้สิทธิของการชุมนุม

ชาวบ้านกลุ่มผู้คัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย อ.จะนะ จ.สงขลา ร้องไชโยด้วยความดีใจ ทันทีที่ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษาคดีประวัติศาสตร์ถึงการละเมิดเสรีภาพ อันเกี่ยวเนื่องจากการใช้สิทธิของการชุมนุม กรณีเจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังสลายการชุมนุม ให้ชาวบ้านเป็นฝ่ายชนะคดี

เจ๊ะหมัด สังข์แก้ว ชาวบ้านกลุ่มผู้คัดค้านโครงการท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ระบุว่า หลังตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 24 คน เป็นโจทย์ยืนฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จ.สงขลา และกระทรวงมหาดไทย พร้อมมีคำพิพากษา ชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 เป็นระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่เกิดเหตุ

24 ธันวาคม 2545 ขณะชาวบ้านกลุ่มผู้คัดค้านท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย กว่า 3,000 คน ชุมนุมปักหลักบริเวณสะพานจุติ-บุญสูง ห่างจากโรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สถานที่จัดงานประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ประมาณ 400 เมตร เพื่อเตรียมยืนหนังสือคัดค้านโครงการ ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชันวัตร นายกรัฐมนตรี

<"">
<"">

 

เนื่องจากเห็นว่า จะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิถีชีวิตของชุมชน แต่ขณะกำลังพักผ่อนและบางส่วนแยกย้ายไปละหมาด ได้ถูกตำรวจใช้กำลังบุกจับแกนนำบนรถเครื่องขยายเสียง และสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับ 100 คน รถยนต์ถูกทุบได้ความเสียหายกว่า 10 คน

ส.รัตนมณี พลกล้า คณะทำงานสภาทนาย มองว่า คำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดครั้งนี้ จะถูกนำไปเป็นบรรทัดฐานของเจ้าหน้าที่ในการตัดสินใจใช้กำลังกับชาวบ้าน ที่ชุมนุมกันอย่างสงบ และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญในอนาคต

นอกจากฟ้องศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้องค์กรแสดงความรับผิดชอบ กลุ่มผู้คัดค้านท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย ยังได้ยืนฟ้องคดีอาญา กับ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวกรวม 38 คน ในข้อหา กระทำการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยาน

ส่วนกรณีฝ่ายตำรวจ ฟ้องดำเนินคดีอาญา กับ ในข้อหามั่วสุมก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดมีคำสั่งยกฟ้องไปแล้ว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง