กากของเสียสีดำ อาจเกิดจากการขุดเจาะแท่นปิโตรเลียม

นายกเทศมนตรีนครสงขลา เชื่อว่า กากของเสียสีดำคล้ายน้ำมันดิบจำนวนมาก ที่พบตามแนวชายฝั่งทะเล จ.สงขลา อาจเกิดจากการขุดเจาะแท่นปิโตรเลียมในอ่าวไทย แต่อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ชี้แจงว่า การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยเป็นระบบปิด จึงไม่น่าจะเกิดจากการปล่อยของเสียลงสู่ทะเล

นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบที่เกิดขึ้น กรณีพบกากของเสียสีดำคล้ายก้อนน้ำมันดิบถูกคลื่นซัดขึ้นมาอยู่บนชายหาดทะเลอ่าวไทย ตลอดแนวชายหาดสมิหลา ต่อเนื่องไปถึง หาดชลาทัศน์ ของจังหวัดสงขลา ระยะทางเกือบ 9 กิโลเมตร โดยนายสมศักดิ์ กำชับให้พนักงานในสังกัดเทศบาลนครสงขลา ร่วมกันเก็บกวาด เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากเกรงว่า จะมีการซึมลงใต้ดินซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต

นายสมศักดิ์ มั่นใจว่าคราบน้ำมันทั้งหมดนี้ เกิดจากการขุดเจาะแท่นปิโตรเลียมในอ่าวไทย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ประกอบการรายใดเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ในส่วนของเทศบาลนครสงขลา ทำได้เพียงเข้าช่วยเหลือและแก้ปัญหา เพื่อปรับภูมิทัศน์ของชายหาดให้สวยงามเท่านั้น เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์กากของเสีย สีดำคล้ายน้ำมันดิบ ลอยมาติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วหลังเคยขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน โดยนายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ยืนยันว่า การดำเนินงานด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยส่วนใหญ่เป็นแหล่งก๊าชธรรมชาติ และ ก๊าชธรรมชาติเหลว ซึ่งเป็นระบบปิดทั้งหมด และไม่ปล่อยของเสียและน้ำมันลงสู่ทะเลโดยเด็ดขาด

ส่วนก้อนกลมลักษณะเป็นทรายเหนียว สีน้ำตาลเข้มและมีคราบน้ำมันสีดำ สำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 ซึ่งใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตรวจสอบเมื่อ 2 ปีก่อน พบว่า เป็นกรดชนิดโอลีอิก และกรดไขมันชนิดปาล์มิติก ซึ่งมีคุณสมบัติทางเคมีไม่ตรงกับน้ำมันดิบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลการตรวจจากหน่วยงานรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างไปพิสูจน์แล้ว คาดว่าจะทราบผลภายใน 7 วัน