กกต.กทม.ไม่รับคำร้องสอบผลโพลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.-นัด "เสรีพิศุทธิ์" ให้ข้อมูลวันนี้

การเมือง
13 ก.พ. 56
03:35
32
Logo Thai PBS
กกต.กทม.ไม่รับคำร้องสอบผลโพลเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.-นัด "เสรีพิศุทธิ์" ให้ข้อมูลวันนี้

กกต.กทม. ไม่รับคำร้องพิจารณาการทำโพลเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ของนายสัณพจน์ ตู้จินดา ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ส่วนคำร้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ผู้สมัครอีกราย นัดเข้าให้ข้อมูลในวันนี้(13 ก.พ.)

พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร หรือ กกต.กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุม โดยระบุว่า กรณีที่นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอให้ทาง กกต.กทม. ตรวจสอบการทำและเผยแพร่ผลสำรวจความเห็นประชาชนของสวนดุสิตโพล เอแบคโพล และกรุงเทพโพล นั้น

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบไม่รับคำร้อง ตามที่ นายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร หรือ ผอ.กต.กทม. เสนอว่า จากการตรวจสอบคำร้องและการให้ถ้อยคำของ นายสัณหพจน์ พบว่า เนื้อหาตามคำร้องเป็นการนำข้อมูลจากสื่อมวลชนมาตัดแปะ ไม่มีข้อมูลเชิงลึกหรือหลักฐานว่า การทำและเผยแพร่โพลดังกล่าวไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการอย่างไร

หลักฐานที่มีจึงเป็นเพียงการกล่าวอ้างที่ไม่เพียงพอต่อการตรวจสอบ คำร้องดังกล่าวจึงไม่เป็นไปตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนที่ระบุว่า ผู้ร้อง ต้องระบุถึงข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ความผิดว่าเป็นอย่างไร พร้อมทั้งแนบพยานหลักฐานด้วย

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งรางวัลนำจับให้กับนายตำรวจรายละ 100,000 บาท หากจับกุมผู้กระทำความผิดในการทุจริตเลือกตั้งได้ ประธาน กกต.กทม. ระบุว่าการที่ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาประกาศให้รางวัลนำจับเป็นวิธีการเพื่อให้เกิดกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการป้องปราบแบบหนึ่ง เป็นที่สิ่งที่ทำได้ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยใช้เงินของตัวเอง

ขณะที่นายวีระ ยี่แพร กล่าวถึงกรณีเรื่องการทำและเผยแพร่ผลโพล โดยระบุว่า ขณะนี้เหลือเพียงเรื่องการเผยแพร่ ซึ่งผู้จัดทำและผู้เผยแพร่รวมถึงสื่อมวลชนต้องระมัดระวังไม่ให้เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545

ส่วนคำร้องของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส ผู้สมัครที่มอบหมายให้นายประพันธ์ คูณมี มายื่นคำร้องแทน สำนักงาน กกต.กทม. ได้นัดหมาย ผู้ร้องมาให้มาให้ถ้อยคำประกอบคำร้องในวันนี้(13 ก.พ.) เวลา 09.00 น. ซึ่งหลังการให้ถ้อยคำแล้ว ทางสำนักงาน กกต.กทม.ก็จะนำไปพิจารณาว่าสมควรให้ที่ประชุม กกต.กทม.รับเป็นเรื่องร้องเรียนหรือไม่

สำหรับกรณีที่ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ ยื่นร้องว่า มีผู้สมัครบางรายติดเรื่องป้ายหาเสียงเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่

ส่วนอีกด้านหนึ่ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และนายวีระ อุดม นายสมิตร สมิทธินันท์ นายวิทยา จังกอบพัฒนา ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้เข้ายื่นฟ้อง กกต. กทม. และ กกต.กลาง เป็นผู้ถูกร้องที่ 1 และ 2 ต่อศาลปกครองกลาง

เนื่องจากเห็นว่า กกต.ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร กรณีปล่อยให้มีการดำเนินการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ขัดต่อกฎหมาย ทั้งที่มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไปยื่นเรื่องให้ กกต.กทม.พิจารณาให้มีการตรวจสอบและให้ระงับการทำโพล และเผยแพร่ผลสำรวจโพล เพราะการทำโพลล์นั้นเป็นการชี้นำ แต่ กกต.ก็ยังไม่ได้การดำเนินการ จึงขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้ กกต.กทม. และ กกต.กลาง สั่งยุติการเผยแพร่ผลโพลโดยทันที

นอกจากนี้ ยังขอให้เพิกถอนคำสั่งเรื่องค่าใช้จ่ายหาเสียงของผู้สมัคร ที่สามารถหาเสียงได้ไม่เกินจำนวน 49 ล้านบาท เนื่องจากมากเกินไป โดยให้กำหนดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเพียง 5.2 ล้านบาท เท่ากับเงินเดือนที่ผู้ว่าฯ กทม. จะได้รับรวมกัน 4 ปี เพราะเห็นว่า การกำหนดวงเงินไว้ไม่เกิน 49 ล้านบาทนั้น จะทำให้ผู้สมัครที่มีเงินหาเสียงได้เท่านั้น

ด้านศาลปกครองกลาง ยังไม่ได้มีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉิน แต่กำหนดให้ไต่สวนเพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวตามปกติ โดยได้นัดคู่กรณีเข้าไต่สวนในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น. เพื่อพิจารณาว่าจะรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ และจะกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาตามที่ขอหรือไม่

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง