ตร.มาเลเซียพยายามผลักดันผู้ชุมนุมฟิลิปปินส์ออกจากพื้นที่พิพาท 
ตำรวจมาเลเซียวางกำลังปิดกั้นพื้นที่ที่กองกำลังติดอาวุธกว่า 100 คน ที่อ้างตัวเป็นทหารประจำพระองค์สุลต่านแห่งซูลู ซึ่งปัจจุบันเป็นจังหวัดหนึ่งของฟิลิปปินส์ ได้นั่งเรือขึ้นฝั่งที่รัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียวของประเทศมาเลเซีย และปักหลักตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อน จนทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของมาเลเซีย ซึ่งจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่มาเลเซียพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม เพื่อผลักดันกลุ่มติดอาวุธชาวฟิลิปปินส์ ออกนอกประเทศโดยสันติ
ก่อนหน้านี้กระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของมาเลเซียแก้ไขปัญหาอย่างสันติ และล่าสุดวันนี้(18 ก.พ.)โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ก็ต้องออกมาร้องขอให้กลุ่มชาวฟิลิปปินส์ที่บุกขึ้นฝั่งรัฐซาบาห์ของมาเลเซีย เดินทางออกจากมาเลเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความสุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดความตึงเครียดทางการทูต ระหว่างฟิลิปปินส์กับมาเลเซีย ซึ่งมักกระทบกระทั่งเรื่องพรมแดนทางทะเลอยู่บ่อยครั้ง
เหตุเผชิญหน้าเกิดขึ้นเนื่องจากกลุ่มติดอาวุธดังกล่าว อ้างว่าเป็นเจ้าของพื้นที่รัฐซาบาห์มาตั้งแต่อดีต นับตั้งแต่ยุคสุลต่านซูลู ปกครองดินแดนแถบเกาะซูลูทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ เรื่อยมาถึงพื้นที่ตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว ซึ่งรวมถึงพื้นที่ปัจจุบันของรัฐซาบาห์ของมาเลเซีย โดยมีหลักฐานว่าในสมัยที่มาเลเซียเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เคยทำข้อตกลงจ่ายบรรณาการเช่าพื้นที่เกาะ แต่แผนที่ปัจจุบันกลับขีดให้รัฐซาบาห์เป็นของมาเลเซีย
ดังนั้นกองกำลังที่อ้างตัวเป็นทหารประจำพระองค์สุลต่านแห่งซูลู จึงใช้เป็นข้ออ้างจะยึดพื้นที่คืน และให้มาเลเซียยอมรับว่าพวกเขาเป็นเจ้าของผืนดินนี้ ซึ่งทางการมาเลเซียปฏิเสธข้อตกลงไปแล้ว และจะส่งตัวคนกลุ่มนี้กลับฟิลิปปินส์ ขณะที่เมื่อวานนี้(17 ก.พ.) สุลต่านเกาะซูลูออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่มคนกลุ่มดังกล่าวจะไม่ยอมถอนตัวออกจากพื้นที่รัฐซาบาห์