มูลนิธิเพื่อผู้บริโภควิจารณ์รัฐไม่ส่งเสริมพลังงานทางเลือก
รศ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค บอกว่า ปัญหาพลังงาน ที่คล้ายกับกรณีที่รัฐบาลประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉิน เกิดขึ้นทุกปี เพราะรัฐบาลใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติที่ต้องนำเข้าและผูกขาดเพียงบริษัทเดียว แต่รัฐบาลสามารถเลือกใช้พลังงานจากแหล่งอื่นที่ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ และรัฐไม่ได้ส่งเสริมพลังงานทางเลือกอย่างจริงจัง
เช่นเดียวกับ ผศ.ประสาท มีแต้ม นักวิชาการด้านพลังงานที่เห็นว่าการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้เป็นทางออกที่ง่ายที่สุด และรัฐบาลทำได้ทันที
ภาวะฉุกเฉินพลังงาน กระทบกรุงเทพฯ
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงเหตุผลที่ให้ความสำคัญกับการหยุดจ่ายก๊าซ และประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน ว่าแม้การซ่อมบำรุงแหล่งผลิตก๊าซจะเป็นแผนงานประจำในทุกปี แต่ครั้งนี้ตรงกับช่วงเวลาคาดการณ์ยอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ประกอบกับก๊าซที่หายไปทำให้ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 6,000 เมกะวัตต์
จนเหลือปริมาณไฟฟ้าสำรองวันที่ 4, 5 เมษายนเพียง 600-700 เมกะวัตต์ ต่ำที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น แต่เมื่อผู้ผลิตก๊าซในพม่าเลื่อนการหยุดจ่ายก๊าซเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าออกไปเป็นช่วงบ่ายวันที่ 5 ทำให้โรงไฟฟ้าในไทยยังคงผลิตไฟฟ้าได้ และปริมาณสำรองวันที่ 4 ยังเป็นปกติ
แต่ยังต้องระมัดระวังในวันที่ 5 เม.ย. ที่ว่าอาจเกิดไฟฟ้าตกใน กรุงเทพมหานคร และภาคใต้ เพราะใช้ไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า 6 แห่ง ฝั่งตะวันตกของประเทศ แต่แก้ปัญหาด้วยการดึงกำลังไฟฟ้าจากภาคอื่นมาใช้แทน