การกลับมาของ
ถ้าชีวิตคนเริ่มต้นด้วยพระอาทิตย์ขึ้น ในวัย 72 ปี คงเข้าสู่ช่วงแดนสนธยาของชีวิต นี่เป็นความหมายของนิทรรศการ "แดนสนธยา" การแสดงผลงานเดี่ยวครั้งล่าสุดของ "ช่วง มูลพินิจ" หลังห่างหายไปนานถึง 10 ปี สะท้อนการทำงานเปลี่ยนไปในช่วงวัยบั้นปลาย หากแต่ยังคงความงามของลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์
ผูกลายไทยเป็นเส้นขนสีทองเรียงกันบนตัวเสือ สวยงามดั่งเครื่องประดับที่เด่นชัดบนผิวสีดำ งานศิลปะชิ้นสำคัญ ที่ "ช่วง มูลพินิจ" ถ่ายทอดความละเอียดประณีตของลายเส้นพริ้วไหวกลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ แดนสนธยา ที่รวบรวม 70 ชิ้นงานสะท้อนตัวตน ในช่วงวัยบั้นปลายที่ผ่านการตกผลึกทางความคิดบนเส้นทางศิลปะ
"ช่วง มูลพินิจ" ศิลปิน บอกว่า ผมคิดว่ามันควรจะเป็นตอนที่ประณีตขึ้นยิ่งขึ้น เพราะความชำนาญ หรือการที่เราทำมาก มันจะทำให้เราประณีตขึ้นแล้วก็ลงตัวมากขึ้น ตั้งแต่ที่เขาเขียนรูปมาจนถึงวันนี้ก็ยังเขียนรูปอยู่แต่เป็นตอนที่ทำงานได้สบายขึ้นเพราะแดดร่มลมตกไม่ร้อนเหมือนเที่ยง ชีวิตเราก็เหมือนกัน
ขณะที่ "เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์" ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ เอกลักษณ์ในงานของอ.ช่วง คือ ทำงานศิลปะตลอดชีวิต และถือเป็นศิลปินที่ประสำความสำเร็จ ซึ่งเวลาดูรูปแล้วรู้เลยว่าเป็นอ.ช่วง โดยงานศิลปะต้อบอกถึงนิสัยและความรู้สึกของศิลปิน
เขาตาปูที่แปลกตา ยิ่งดูไม่ธรรมดาเมื่อมีหินน้อยใหญ่ตกลงมาจากสวรรค์ เป็นจินตนาการที่สร้างสรรค์จากความประทับใจที่ได้เห็นว่า"ธรรมชาติคือครูผู้ยิ่งใหญ่" ช่วง มูลพินิจ สร้างชื่อในฐานะนักวาดภาพประกอบลายเส้นในหนังสือ เช่น ชาวกรุง ช่อฟ้า และสยามรัฐ และยังออกแบบโปสเตอร์ประกอบภาพยนตร์ไทยแนววรรณกรรม เช่น เลือดสุพรรณ แผลเก่า เอกลักษณ์ในลายเส้นที่ประยุกต์ความอ่อนช้อยของลายไทย เข้ากับรูปทรงแบบเหมือนจริงได้อย่างกลมกลืน ประณีตละเอียดลออ จนได้รับฉายาว่า "จิตรกรผู้เห็นมดยิ้มสวย" จาก รงษ์ วงสรรค์ นักเขียนรุ่นใหญ่ผู้ล่วงลับ สะท้อนการยอมรับของศิลปินชั้นครู
"ประทีป คชบัว" ศิลปินรุ่นน้อง บอกว่า ในแง่ความคมคายของการใช้เส้น แล้วการใช้จิตในการทำงาน คือต้องมุ่งมั่นบังคับเส้นให้สวยงาม เส้นเค้าจะเป็นเส้นที่ดีไซน์ แล้วก็เป็นคนโบราณเส้นโบราณที่ประเทศไทยต้องจารึกไว้เลยรักษาไว้เลยคนคนเนี้ย
ในแดนสนธยาของชีวิต ช่วง มูลพินิจ ทำงานช้าลง แต่ไม่เคยหยุด ผลงาน 70 ชิ้น ในนิทรรศการ"แดนสนธยา" ซึ่งจัดแสดงที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เป็นการรวบรวมงานกว่า 50 ปีบนเส้นทางศิลปะ ตั้งแต่ยุคแรกที่เริ่มด้วยภาพวาดลายเส้นด้วยปากกาหมึกดำ จนถึงงานสีน้ำ และสีน้ำมันบนผืนผ้าใบในเวลาต่อมา จึงเสมือนเป็นชีวประวัติของศิลปินรุ่นใหญ่วัย 72 ปี ซึ่งบอกว่า ได้ก้าวเข้าสู่ช่วงปลายทางของชีวิต ดุจเดียวกับยามโพล้เพล้แห่งสนธยา แม้ตัวจะจากไปก็หวังให้ศิลปะคงอยู่