“เล่าเรื่องภารกิจการแพทย์ฉุกเฉินไทยผ่านงานศิลป์ ความงามและความจริง ในการช่วยชีวิตประชาชน”

 

ความรู้สึกผ่านความงามในแง่มุมศิลปะเกี่ยวกับการทำงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินยังถูกถ่ายทอดผ่านภาพวาดในชุด“การแพทย์ฉุกเฉินไทยใส่ใจผู้ป่วย” ที่บอกเล่าถึงการเข้าถึงการบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประชาชนทั่วไปได้ผ่านทางการให้บริการผ่านสายด่วน1669 ของ ดญ.ฐิติพร เย็นสถิต หรือน้องน้ำหวาน อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับรางวัลที่ 3 ในการประกวดครั้งนี้น้องน้ำหวานบอกเล่าให้เราฟังถึงการถ่ายทอดมุมมองภาพวาดจนได้รับรางวัลชนะเลิศลำดับที่3 ว่า “ หนูเห็นการทำงานของพี่ๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ฉุกเฉินผ่านโทรทัศน์ เห็นพี่ๆ ทุกคนทำงานหนัก ที่หนูจำได้คือในโทรทัศน์บอกว่าถ้าเจ็บป่วยฉุกเฉินให้ทุกคนโทรหา 1669แล้วจะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเราให้รอดจากการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ดูว่ามันเป็นการใส่ใจในผู้ป่วย ใครเจ็บก็สามารถโทรหา 1669 ได้หนูก็เลยถ่ายทอดออกมาเป็นภาพของคนที่กดโทรศัพท์1669 ใครเจ็บป่วยที่ไหนก็สามารถโทรได้ทุกที่ทุกเวลา”

 

นอกจากผลงานของเด็กๆ แล้วการประกวดในครั้งนี้ยังมีผลงานภาพวาดในระดับประชาชนทั่วไปที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในผลงานชื่อ “หัวใจให้ประชาชน” ของคุณอานนท์ บุญสร้อย ที่ได้คลุกคลีการทำงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินผ่านเพื่อสนิทที่เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย คุณอานนท์ให้เหตุผลของการวาดภาพในชื่อชุดนี้ว่า “เรามีเพื่อนสนิทที่ทำงานด้านนี้และเห็นว่าเขาทำงานด้วยความเสียสละ และมุ่งมั่นในการทำงานกู้ชีพของให้กับคนอื่นด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง ทำให้เราเกิดความประทับใจทั้งเพื่อนของเราและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานด้านนี้จึงทำให้เกิดภาพวาดชิ้นนี้ขึ้นเพื่อให้ทุกคนที่ได้เห็นภาพนี้จะได้เห็นและเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ยึดหลักทุกชีวิตมีคุณค่า”นายอานนท์กล่าว

 

สำหรับโครงการประกวดภาพวาดหัวข้อ“การแพทย์ฉุกเฉินไทย ด้วยหัวใจประชาชน”สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้จัดการประกวดออกเป็น 3 ระดับ คือระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป โดยผู้ที่สนใจในโครงการนี้ได้ส่งภาพวาดมาร่วมการประกวดครั้งนี้คนละไม่เกิน  3 ชิ้น การจัดประกวดภาพวาดในครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักเพื่อต้องการให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้ถ่ายทอดความรู้สึกที่มีต่อการทำงานของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินผ่านมุมมองของศิลปะ เพื่อนสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ฉุกเฉินในการทำงาน และเพื่อสร้างทัศนคติที่ดีงามและความเข้าใจต่อการทำงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้แก่ประชาชนทั่วไปด้วย 

 

ผู้ที่ได้รับรางวัลในแต่ละระดับประกอบด้วย ระดับประถมศึกษาผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งคือ ดช.คนิณณัฐ ชาญชนะโยธิน  อายุ 9 ขวบ ในผลงานชื่อ “แพทย์ฉุกเฉินไทย ช่วยประชาด้วยใจ รางวัลที่ 2 ด.ช.ธีร์ธวัช รัตนเอกชัย อายุ 10 ปี ผลงานชื่อ “ฉับไวปลอดภัยเรียกใช้ 1669” รางวัลที่ 3  ด.ญ.ฐิติพร เย็นสถิต อายุ 11 ปีผลงานชื่อ “การแพทย์ฉุกเฉินไทยใส่ใจผู้ป่วย

 

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับมัธยมศึกษาได้แก่ นายพิชาชาญ ผาสุกพรรณ์ อายุ 17 ปีผลงานชื่อ “การแพทย์ฉุกเฉินในดวงใจ” รางวัลที่2 ด.ญ. มัทนา แซ่จ๊ะ อายุ 14 ปี ชื่อภาพ “สร้างสรรค์ปันน้ำใจ” รางวัลที่ 3 น.ส.วิภาดา ชลายนนาวิน อายุ 18 ปี ภาพชื่อ “การแพทย์ฉุกเฉินไทยในดวงใจประชาชน” 

 

ส่วนผลงานภาพวาดระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป รางวัลที่ 1 นายอานนท์ บุญสร้อย ภาพชื่อ “หัวใจให้ประชาชน” รางวัลที่ 2 นายพงศธร เฉลิมทรัพย์ ภาพชื่อ “การแพทย์ฉุกเฉินเพื่อประชาชน” รางวัลที่ 3 นายมานพ สีระแปง ภาพชื่อ “การแพทย์ฉุกเฉินไทยด้วยหัวใจประชาชน”

 

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงการจัดโครงการประกวดภาพวาดในครั้งนี้ว่า“การจัดประกวดภาพวาดในครั้งนี้มีผู้ส่งผลงานเข้ามาร่วมประกวดกับเราเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลในการประกวดครั้งนี้นั้นสามารถถ่ายทอดและสะท้อนภาพการทำงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้อย่างชัดเจน ภาพมุมมองทางด้านศิลปะที่เข้าใจและเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นผลงานของเด็กๆ ชั้นประถมที่สะท้อนการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ฉุกเฉินทั้งในสภาวะภัยพิบัติ หรือในเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ เช่นการเกิดอุบัติเหตุ เหตุการณ์ไฟไหม้ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ทุกคน พร้อมให้การช่วยเหลือ หรือแม้กระทั่งภาพวาดของน้องๆ ในระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษา และประชาชนทั่วไปก็สามารถถ่ายทอดการทำงานของพวกเราได้อย่างดี และยังสามารถใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ในการรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจการทำงานและเห็นภาพการทำงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

 

 ถึงแม้โครงการประกวดภาพวาดหัวข้อ“การแพทย์ฉุกเฉินไทย ด้วยหัวใจประชาชน” ได้รูดม่านปิดลงแล้วอย่างเป็นทางการแล้ว หากแต่การทำงานของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ฉุกเฉินยังดำเนินต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด อย่างเต็มที่ อย่างจริงจัง และจริงใจเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม